อีสท์ วอเตอร์-อมตะ ยู ลงนามสัญญาซื้อขาย  

   อีสท์ วอเตอร์-อมตะ ยู ลงนามสัญญาซื้อขาย

   น้ำอุตสาหกรรมนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี 2     

   อีสท์ วอเตอร์ ลงนามสัญญาซื้อขายน้ำอุตสาหกรรมกับ อมตะ ยู เพื่อให้บริการน้ำอุตสาหกรรมแก่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี 2 ตอบสนองความต้องการใช้น้ำสูงสุดของโครงการ 3.15 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี เสริมความมั่นคงเสถียรภาพด้านแหล่งน้ำ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้น้ำในระยะยาวในภาคตะวันออก

   บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ ลงนามสัญญาซื้อขายน้ำอุตสาหกรรม กับ บริษัท อมตะ ยู จำกัด

   เพื่อตอบสนองความต้องการใช้น้ำของผู้ประกอบการ ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี 2 เพื่อให้การพัฒนาและการบริหารทรัพยากรน้ำภายในนิคมอุตสาหกรรมมีความมั่นคงและต่อเนื่อง

   สัญญาซื้อขายน้ำอุตสาหกรรมในครั้งนี้ รองรับความต้องการใช้น้ำในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี 2 ปริมาณ 9,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน หรือ 3.15 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี

   โดยมีอายุสัญญา 20 ปี เริ่มรับน้ำอุตสาหกรรม ในปี 2569 นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี 2 มีพื้นที่ โครงการรวม 1,940.99 ไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม 1,280.51 ไร่ และพื้นสาธารณูปโภค 357.08 ไร่

   เพื่อตอบสนองความต้องการใช้น้ำในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เช่น  อุตสาหกรรมสิ่งทอ ประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือแพทย์ อาหาร เครื่องประดับ รวมทั้งอุตสาหกรรมที่เป็นกลุ่มอนาคต (New S-curve)

   ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่ได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนา พิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เช่นอุตสาหกรรมยานยนต์ การบินและโลจิสติกส์ ดิจิทัลและการแพทย์ครบวงจร เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ เป็นต้น

   ตลอด 32 ปีที่ผ่านมาการดำเนินงานของอีสท์ วอเตอร์ ได้สร้างความมั่นคงด้านน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกอย่างต่อเนื่อง พัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ ผู้นำในการสร้างความมั่นคงของการจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำครบวงจรของประเทศด้วยสมาร์ทเทคโนโลยี

   สร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานการบริหารจัดการที่โปร่งใสมีธรรมาภิบาลเพื่อเป็นรากฐานสู่ความยั่งยืน การผนึกกำลังกับอมตะ วอเตอร์ จะทำให้การพัฒนาและการบริหารทรัพยากรน้ำภายในนิคมอุตสาหกรรมมีความมั่นคงและต่อเนื่อง ตอบสนองความต้องการใช้น้ำของผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี