สถิติ

70504491

ไทยยืนยัน!ความมุ่งมั่นพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มยั่งยืน    

หมวดหมู่: ตลาด/ไอที

   ไทยยืนยัน!ความมุ่งมั่นพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มยั่งยืน

   ผู้ประกอบการเรียกร้องส่งเสริมการรับรองRSPOระดับภูมิภาค/โลก

   ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่อันดับสามของโลก กำลังเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มที่ยั่งยืนมากขึ้น

   ในวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2567 ทางองค์การเจรจาระหว่างประเทศว่าด้วยปาล์มน้ำมันยั่งยืน (RSPO) ได้จัดงานมีเดีย บรีฟสำหรับสื่อและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มที่ยั่งยืนของประเทศไทย

   ผู้เข้าร่วมได้แก่ ตัวแทนจากเครือข่ายปาล์มน้ำมันยั่งยืนประเทศไทย (TASPO) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืนศรีเจริญ

   การผลิตน้ำมันปาล์มยั่งยืนของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างโดดเด่นจาก 348,027 ตันในปี 2562 เป็น 1,112,048 ตันในปี 2567 คิดเป็นกว่าร้อยละ 200 โดยศูนย์กลางการขยายตัวอยู่ในจังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช และพังงา

   พื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันที่ได้รับการรับรองว่ายั่งยืน (CSPO) ของประเทศไทยครอบคลุมถึง 57,336 เฮกตาร์ หรือ 358,350 ไร่ ซึ่งเป็นผลจากการให้ความสำคัญของการส่งเสริมการเกษตรที่ยั่งยืนในประเทศ

   นายอัสนี มาลัมพุช ประธานเครือข่ายปาล์มน้ำมันยั่งยืนประเทศไทย (TASPO) และประธานสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม กล่าวว่า แม้ประเทศไทยจะมีการส่งออกน้ำมันปาล์มส่วนเกินในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ส่วนใหญ่เป็นน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ที่ไม่มีมูลค่าเพิ่ม จำเป็นต้องทำให้น้ำมันปาล์มที่ผลิตในประเทศไทยดึงดูดตลาดและมีคุณภาพสูง

   ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน มีคาร์บอนต่ำ และเป็นการค้าที่เป็นธรรม เกษตรกรต้องได้รับส่วนแบ่งที่เป็นธรรม และไม่ให้บริษัทเอกชนครอบครองผลประโยชน์ทั้งหมด ประธานเครือข่ายปาล์มน้ำมันยั่งยืนประเทศไทยกล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญในประเด็นนี้

การสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยเป็นสิ่งสำคัญ

   เกษตรกรรายย่อยเป็นกระดูกสันหลังของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มของประเทศไทย โดยคิดเป็นประมาณ 85% ของการผลิต เกษตรกรรายย่อยในประเทศไทยถูกกำหนดให้เป็นเกษตรกรที่มีที่ดินน้อยกว่า 50 เฮกตาร์ (312.5 ไร่) และประเทศไทยเป็นประเทศแรกของโลกที่มีการจัดตั้งกลุ่มเกษตรกรรายย่อยอิสระที่ได้รับการรับรองจาก RSPO สี่กลุ่มในปี 2555

   ในการบรรยายสรุปครั้งนี้ นางสาวรัฎดา ลาภหนุน ผู้จัดการด้านเทคนิคของ RSPO กล่าว เกษตรกรรายย่อยส่วนใหญ่ในประเทศไทยจัดการสวนปาล์มน้ำมันประมาณ 4–5 ไร่ และมักขาดทรัพยากรในการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ

   ส่งผลให้ผลผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 3–3.2 ตันต่อไร่ ซึ่งถือว่าต่ำ และมีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและความรู้ ทำให้เกษตรกรมีอำนาจต่อรองด้านราคาค่อนข้างน้อยและส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

   "RSPO ยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการรับรองให้กับเกษตรกรรายย่อยของไทย ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยและภาคเอกชนในการผลักดันความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มคุณภาพสูงและยั่งยืน" นางสาวรัฎดา กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

   ณ ตุลาคม 2567 การเป็นสมาชิกของ RSPO ในประเทศไทยประกอบด้วย 91 กลุ่มของเกษตรกรทั้งรายใหญ่และรายย่อย โดยมีกลุ่มเกษตรกรรายย่อยอิสระที่ได้รับการรับรองจาก RSPO 34 กลุ่ม ซึ่งครอบคลุมเกษตรกรกว่า 9,062 ราย โดยพื้นที่ที่ได้รับการรับรองรวมกว่า 283,818.69 ไร่

   การรับรอง RSPO ช่วยให้เกษตรกรรายย่อยสามารถเข้าถึงทรัพยากร โอกาสทางการตลาดและราคาพิเศษสำหรับทะลายปาล์มสด (FFB) ซึ่งช่วยเพิ่มผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจให้กับพวกเขา กลุ่มเกษตรกรรายย่อยที่ได้รับการรับรองสามารถได้รับผลกำไรประจำปีสูงถึง 10.416 ล้านบาท (ประมาณ 287,401 ดอลลาร์สหรัฐฯ)

   “เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรปฏิบัติตามมาตรฐาน RSPO หน่วยงานรัฐบาลและภาคเอกชนจำเป็นต้องเสริมสร้างการสนับสนุนผ่านการให้การศึกษาด้านปาล์มน้ำมันที่ยั่งยืน การสนับสนุนการก่อตั้งกลุ่ม และการปรับปรุงการเข้าถึงแหล่งเงินทุนนายเชาวลิต วุฒิพงศ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืนศรีเจริญ กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

   กองทุนสนับสนุนเกษตรกรรายย่อย RSPO (RSSF) ได้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่เกษตรกรรายย่อยน้ำมันปาล์มเพื่อส่งเสริมการปฏิบัติที่ยั่งยืนตั้งแต่ปี 2557

   โดยมีเกษตรกรรายย่อยในประเทศไทยได้รับประโยชน์จำนวน 5,274 ราย โดยได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 12,658,792 บาท (ประมาณ 383,101 ดอลลาร์สหรัฐฯ)

สุราษฎร์ธานี  : ต้นแบบระดับประเทศในการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน

   ดร. กาญจนา ขวัญเมือง รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในนามของเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายปาล์มแห่งชาติ ว่า ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอุตสาหกรรมได้ส่งเสริมและรับรองมาตรฐาน RSPO                

   ความมุ่งมั่นยังขยายไปถึงการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาที่ช่วยเพิ่มมูลค่าทางการค้า และช่วยทำให้แน่ใจว่าการปฏิบัติที่ยั่งยืนมีส่วนสนับสนุนให้ภาคเกษตรกรรมของเราเติบโตและเจริญรุ่งเรือง

   ในปี 2565 RSPO จังหวัดสุราษฎร์ธานี และภาคีพันธมิตร 6 องค์กรได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อยกระดับพื้นที่สุราษฎร์ธานีให้เป็นเมืองต้นแบบปาล์มน้ำมันยั่งยืนของประเทศไทย และเป็นศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีสำหรับปาล์มน้ำมันที่ยั่งยืนที่ได้รับการรับรอง

   ตั้งแต่ปี 2565 พื้นที่ปลูกน้ำมันปาล์มที่ได้รับการรับรอง RSPO ในสุราษฎร์ธานีได้เพิ่มขึ้นจาก 82,178.31 ไร่ เป็น 107,789.31 ไร่ เพิ่มขึ้นคิดเป็น 31% การผลิตทะลายปาล์มสดที่ได้รับการรับรองเพิ่มขึ้นจาก 209,858.53 ตันเป็น 283,818.69 ตัน

   ขณะนี้การรับรอง RSPO ครอบคลุม 12 อำเภอ โดยมีเกษตรกรที่ได้รับการรับรองจาก RSPO จำนวน 3,619 ราย RSPO ตั้งเป้าหมายที่จะขยายการรับรองไปยังพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันในทุก 17 อำเภอของสุราษฎร์ธานี

   ประเทศไทยตั้งเป้าที่จะเน้นย้ำความพยายามอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกในงานการสัมมนาประจำปีของ RSPO (RT2024)

   ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2567 ณ โรงแรมอมารี กรุงเทพมหานคร โดยมีการเตรียมมอบการรับรอง RSPO ให้แก่กลุ่มเกษตรกรรายย่อยอิสระอีก 30 กลุ่มในงาน RT2024

   การเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการยกระดับมาตรฐานการผลิตน้ำมันปาล์มและส่งเสริมความยั่งยืนภายในภาคเกษตรกรรมของประเทศโดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและชุมชนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำมันปาล์ม

26 ตุลาคม 2567

ผู้ชม 251 ครั้ง

Engine by shopup.com