สถิติ

71020142

ITEL อวดกำไรQ1/67โต113% กำไรสุทธิ123ล้านบาท  

   ITEL อวดกำไรQ1/67โต113% กำไรสุทธิ123ล้านบาท

   เฮ!ก.ล.ต. ไฟเขียวนับหนึ่งไฟลิ่ง บริษัทย่อย "BLUE" 

                

   บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม โตต่อเนื่อง กวาดกำไรไตรมาส 1/2567 สุทธิ 123 ล้านบาท โตขึ้นกว่า 113% พร้อมลุยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในไตรมาส 2 นี้

   สร้างความเชื่อมั่นธุรกิจหลักแข็งแรง เร่งเดินหน้าขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ก.ล.ต. ไฟเขียวนับหนึ่งไฟลิ่ง บริษัทย่อย “BLUE” เรียบร้อยแล้ว

   ดร.ณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL ผู้ให้บริการโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกชั้นนำระดับประเทศ เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 1/2567 (สิ้นสุด 31 มีนาคม 2567) กวาดรายได้ไปกว่า 788 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้ากว่า 42% ทั้งยังมีกำไรสุทธิ 123 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 113%

   โดยมีรายได้ดังกล่าวมาจากธุรกิจหลักที่แข็งแรง ทั้งงานโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง บริการติดตั้งโครงข่ายคมนาคม และศูนย์สำรองข้อมูล (Data Center) รวมไปถึงผลกำไรจาก บริษัท โกลบอล ลิโธทริปซี่ย์ เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ GLS ธุรกิจเทคโนโลยีทางด้านสุขภาพ

   ที่บริษัทเข้าไปลงทุน และยังมีเป้าหมายในไตรมาส 2 ในการนำเสนองานลูกค้าทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชน ทั้งยังมี Backlog ในมืออีก 2,471 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะรับรู้รายได้กว่า 1,390 ล้านบาท

   นอกจากนี้ล่าสุด ก.ล.ต. ประกาศไฟเขียวนับหนึ่ง Filing บริษัท บลู โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “BLUE” ซึ่งมี บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL ถือหุ้น 51% คาดเตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือ First Trading Day ในช่วงไตรมาส 3-4 ของปีนี้

   “หลังจากการนำ BLUE เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะส่งผลดีต่อกลุ่ม ITEL ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความสามารถของบริษัทในการรักษาฐานลูกค้าเดิม และเพิ่มรายได้ด้วยการขยายขอบเขตงานบริการให้กว้างขึ้น

   เริ่มรับงานที่สามารถสร้างรายได้ต่อเนื่องจากลูกค้า ซึ่งเกิดจากความเชื่อใจในคุณภาพการให้บริการที่ BLUE ได้พิสูจน์ตัวเองมาตลอด ส่งผลให้ผลประกอบการของกลุ่มบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง" ดร.ณัฐนัย กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

   ในส่วนของการเติบโตของ ITEL มีส่วนประกอบหลายๆ ส่วน ส่วนที่หนึ่งธุรกิจหลักต้องแข็งแรง ซึ่งเชื่อว่าธุรกิจหลักแข็งแรงส่งผลให้รายได้ของบริษัทค่อนข้างมั่นคง และสามารถต่อยอดได้ อีกส่วนหนึ่งคือการใช้งานการบริการต่างๆ ด้วยคุณภาพการให้บริการต่างๆที่ยังแข็งแรง

   บริษัทจึงมีปริมาณลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งช่วยสนับสนุนให้บริษัทเติบโตได้อีกขั้น และทำให้สามารถที่จะรักษาลูกค้าเอาไว้ได้ ทั้งในช่วงไตรมาส 2-4 ปีนี้ จะเห็นการขับเคลื่อนที่ดีจากงานภาครัฐ ในขณะที่งานภาคเอกชนก็ยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง” ดร.ณัฐนัย กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

   จากผลประกอบการไตรมาส 1/2567 และแผนการดำเนินธุรกิจที่เริ่มดำเนินไปตามเป้าหมายของปีนี้ สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างบริการที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าอย่างครอบคลุม และเชื่อมั่นเลยว่าอนาคตธุรกิจจะสามารถเดินหน้าตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน

23 พฤษภาคม 2567

ผู้ชม 64 ครั้ง

Engine by shopup.com