ยูโอบีจับมือAlibaba.comหนุนSME
ยูโอบีจับมือAlibaba.comหนุนSME
ยูโอบีจับมือAlibaba.comหนุนSME
ลุยขยายธุรกิจ B2B บนอีคอมเมิร์ซ
ธนาคารยูโอบี ประเทศไทยจับมือกับ Alibaba.com แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ B2B ของอาลีบาบาสำหรับการค้าระดับโลก หนุนผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (เอสเอ็มอี) ขยายธุรกิจบนอีคอมเมิรซ์
ร่วมเผยแนวทางการดำเนินธุรกิจ และนำเสนอโซลูชันทางการเงินที่จะช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจเอสเอ็มอีขยายโอกาสสู่ตลาดต่างประเทศบนช่องทางออนไลน์
ความร่วมมือระหว่างธนาคารยูโอบี ประเทศไทย และ Alibaba.com ตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสององค์กรที่พร้อมจะรวมองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญ
เพื่อมอบคำแนะนำและเครื่องมือทางการเงินอันเป็นประโยชน์ให้ธุรกิจเอสเอ็มอีไทยสามารถดำเนินธุรกิจบนช่องทางออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นางสยุมรัตน์ มาระเนตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Head of Business Banking ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า มีรายงานคาดการณ์ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซ B2B ทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 7,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2570
ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมาที่ธนาคารได้นำเสนอบริการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เล็งเห็นว่าอีคอมเมิร์ซได้กลายมาเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่ผู้ประกอบการในการทำตลาดต่างประเทศ
นอกจากนี้ธนาคารยังตระหนักดีว่าการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและบริการทางธุรกิจ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจไปบนดิจิทัลแพลตฟอร์มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นความร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นการผนึกความเชี่ยวชาญทางการเงินของธนาคารเข้ากับข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรมของ Alibaba.com เพื่อสนับสนุนลูกค้าเอสเอ็มอีเชื่อมต่อกับโอกาสใหม่และขยายธุรกิจไปต่างประเทศบนดิจิทัลแพลตฟอร์มระดับโลก”
นายวาเรน หวัง Head of Thailand Business, Alibaba.com กล่าวว่า ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ในการให้บริการธุรกิจในการซื้อขายสินค้าทั่วโลก Alibaba.com คือแพลตฟอร์ม B2B (Business-to-Business) ชั้นนำเพื่อการค้าระดับโลก
รายงานการศึกษาพบว่าร้อยละ 42 ของผู้ขายสินค้าใช้แพลตฟอร์มเป็นช่องทางหลักในการคัดสรรสินค้า ในขณะที่ร้อยละ 60 ใช้แพลตฟอร์มเพื่อเป็นช่องทางสำหรับขยายธุรกิจไปตลาดต่างประเทศ
ดังนั้นในฐานะแพลตฟอร์มที่ให้บริการซื้อขายแบบครบวงจรพร้อมจะอยู่เคียงข้างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในการขยายธุรกิจไปต่างแดน และหวังที่จะได้ร่วมงานกับยูโอบีอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเพื่อจัดงานสัมมนาที่เป็นประโยชน์ให้แก่ธุรกิจเอสเอ็มอีในอนาคต
โดยเมื่อเร็วนี้ๆ ธนาคารยูโอบีได้ร่วมกับ Alibaba.com จัดงานสัมมนาให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจค้าส่ง นำเข้าและส่งออก เพื่อนำเสนอ ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจแบบ B2B บนตลาดอีคอมเมิร์ซ ทิศทางและแนวโน้มของการนำเข้าและส่งออกสินค้า
รวมไปถึงสถานการณ์ของตลาดในปัจจุบันเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถจัดหาสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่นิยมและมีโอกาสในการขายได้มากขึ้น โดยผลสำรวจของ Alibaba.com พบว่าประเทศผู้ซื้อที่สนใจซื้อผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยมากที่สุดคือ สหรัฐอเมริกา ปากีสถาน และ ประเทศกลุ่มตะวันออกกลาง
สำหรับกลุ่มสินค้าที่มียอดการซื้อขายสูงสุงจากผู้ขายไทยได้แก่ กลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มสินค้าด้านการเกษตร กลุ่มสินค้าด้านความงาม กลุ่มสินค้าเสื้อผ้าและเครื่องประดับ และกลุ่มสินค้าบ้านและสวน
นอกจากนี้ธนาคารได้นำเสนอโซลูชันทางการเงินและบริการธนาคารที่จะช่วยบริหารเงินสด และลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการทำธุรกรรมต่างประเทศเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจเอสเอ็มอีที่สนใจจะขยายธุรกิจบนแพลต์ฟอร์มออนไลน์ระหว่างประเทศ
อาทิเช่น UOB Biztrade+, UOB Trade Finance, UOB FX (Foreign Exchange), และ Trade Credit Insurance ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อลดอุปสรรคในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่ธุรกิจและทำให้การขายสินค้าออนไลน์ไปสู่ตลาดต่างประเทศเป็นไปอย่างสะดวกยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ธุรกิจเอสเอ็มอียังสามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม UOB BizSmart ที่รวบรวมโซลูชันจัดการธุรกิจบนระบบดิจิทัลแบบครบวงจรเพื่อช่วยให้การบริหารธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
22 เมษายน 2567
ผู้ชม 331 ครั้ง