กระทรวงพม. ร่วมกับ การเคหะแห่งชาติ ปลื้ม!กว่า 70% ย้ายเข้าอยู่
กระทรวงพม. ร่วมกับ การเคหะแห่งชาติ ปลื้ม!กว่า 70% ย้ายเข้าอยู่
กระทรวงพม. ร่วมกับ การเคหะแห่งชาติ ปลื้ม!กว่า 70% ย้ายเข้าอยู่
โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนเชิงสังคม จ.สุพรรณบุรี (อู่ยา 1)
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีมอบโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนเชิงสังคม จังหวัดสุพรรณบุรี (อู่ยา 1)
โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวง พม. พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง พม. นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ พร้อมคณะผู้บริหารการเคหะแห่งชาติ และผู้อยู่อาศัยในโครงการฯ เข้าร่วมงาน
ณ โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนเชิงสังคม จังหวัดสุพรรณบุรี (อู่ยา 1) หมู่ที่ 1 ถนนอู่ยา-ดอนเจดีย์ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวง พม. โดยการเคหะแห่งชาติ ขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยให้ความสำคัญกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้อยู่อาศัย
ภายใต้แนวคิด “การสร้างสังคมให้น่าอยู่” เริ่มตั้งแต่การก่อสร้างที่คำนึงถึงความยั่งยืน การออกแบบอาคารที่ลดการใช้พลังงาน การใช้วัสดุก่อสร้างหรือทรัพยากรที่เป็นมิตรกับผู้อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการออกแบบสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับทุกคน
นอกจากนี้ การเคหะแห่งชาติ ได้เน้นย้ำในเรื่องความยั่งยืนมาประยุกต์ใช้ในโครงการเคหะชุมชนฯ สุพรรณบุรี (อู่ยา 1) รวมถึงทุกโครงการที่อยู่อาศัย โดยเริ่มจากการคัดแยกขยะ ขยะเปียก ขยะรีไซเคิล หรือขยะพลาสติก
ซึ่งทุกวันนี้สามารถเปลี่ยนขยะให้เป็นเงินได้ เช่น การนำขยะมาทำเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า รวมไปถึงของตกแต่งบ้านต่างๆ ทำให้เกิดเป็นรูปธรรม ด้วยการสร้างรายได้ให้ชุมชน
โดยเฉพาะการชักชวนให้ผู้สูงอายุได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน ถือเป็นหัวใจหลักที่ทำให้สังคมมีคุณภาพ เพราะการดูแลผู้สูงวัยให้มีสุขภาพกายและใจให้แข็งแรงถือเป็นเรื่องสำคัญ
นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า การเคหะแห่งชาติ หรือ กคช. เป็นรัฐวิสาหกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวง พม. นั้น ตนขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวสุพรรณบุรีที่มีโอกาสย้ายเข้ามาอยู่ในโครงการแห่งนี้และรับมอบบ้านในวันนี้
ซึ่งเป็นหนึ่งในการพื้นที่ของ กคช. ที่สามารถพัฒนา และดูแล รักษา สร้างคุณภาพชุมชนที่ดี วันนี้พี่น้องประชาชนได้ย้ายเข้ามาอยู่ในโครงการนี้กว่า 70-80% และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะช่วยกันสร้างสังคม สร้างชุมชน ภายในโครงการแห่งนี้
เพราะท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่กระทรวง พม. และ กคช. มอบให้กับพี่น้องประชาชนได้ คือ อิฐ หิน ปูน ทราย ที่นำมาประกอบกันเป็นบ้าน แต่สังคมที่ดี ชุมชนที่อบอุ่น จะมีได้นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกระทรวง พม. หรือ กคช.
แต่พี่น้องประชาชนที่อยู่ในชุมชนจะสามารถสร้างความอบอุ่น ความมีระเบียบ ความรัก ความสามัคคี ให้เกิดขึ้นในชุมชนของตนเอง ในส่วนของกระทรวง พม. และ กคช. ยินดีที่จะสนับสนุนกิจกรรม มาช่วยกันสร้างสังคมที่อบอุ่น คืนครอบครัวให้กับสังคมไทย
"โครงการนี้ไม่เพียงแต่จะได้รับความสนใจจากพี่น้องชาวสุพรรณบุรี แต่ยังได้รับความสนใจจากพี่น้องชาวจังหวัดใกล้เคียง ทั้งจากจังหวัดนครปฐมและกาญจนบุรี
ได้มีการย้ายเข้ามาอยู่ในโครงการนี้เช่นกัน นับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ กคช. สร้างโครงการนี้ขึ้นมา และสามารถดึงพี่น้องประชาชนจากหลายพื้นที่ได้เข้ามาพักอาศัยที่จังหวัดสุพรรณบุรีแห่งนี้" นายวราวุธ กล่าวย้ำ
นายทวีพงษ์ กล่าวว่า โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนเชิงสังคม จังหวัดสุพรรณบุรี (อู่ยา 1) ตั้งอยู่บริเวณหมู่ที่ 1 ถนนอู่ยา-ดอนเจดีย์ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
โดยนำ SUNK COST ของโครงการบ้านเอื้ออาทรจังหวัดสุพรรณบุรีมาพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยบนเนื้อที่ 25.48 ไร่ จำนวน 322 หน่วย แบ่งออกเป็น บ้านแฝด 2 ชั้น จำนวน 186 หน่วย ขนาด 21 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 54 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 828,000 บาท
และทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น จำนวน 136 หน่วย ขนาด 16 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 55 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 692,000 บาท นอกจากนี้ ภายในโครงการฯ ยังมีโซนพิเศษสำหรับผู้สูงอายุอีกด้วย
สำหรับการออกแบบโครงการฯ ได้มีการนำเกณฑ์ประเมินโครงการชุมชนน่าอยู่น่าสบายอย่างยั่งยืน (ECO VILLAGE) และหลักเกณฑ์ในการออกแบบสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับทุกคน (UNIVERSAL DESIGN) มาใช้เป็นแนวทางในการออกแบบวางผังโครงการและออกแบบอาคาร
ซึ่งตัวบ้านได้ออกแบบในลักษณะ Modern Style ตามสมัยนิยม โดยมีการออกแบบให้อาคารมีช่องเปิดอย่างน้อย 2 ด้าน เพื่อระบายถ่ายเทอากาศได้ดี และใช้วัสดุต่างๆ เพื่อการประหยัดพลังงาน
เช่น การใช้ผนังอิฐมวลเบา การใส่ฉนวนกันความร้อนที่ฝ้าเพดาน และการใช้หลอดไฟ LED เป็นต้น นอกจากนี้โครงการเคหะชุมชนฯ สุพรรณบุรี (อู่ยา 1) ยังได้รับการการันตีบ้านเบอร์ 5 จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อีกด้วย
นอกจากนี้โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนเชิงสังคม จังหวัดสุพรรณบุรี (อู่ยา 1) ยังมีบ้านว่าง จำนวน 133 หน่วย หากท่านใดสนใจโครงการฯ สามารถ Walk-in เข้ามาชมบ้านตัวอย่างและสามารถจองได้กับเจ้าหน้าที่ ณ ที่ตั้งโครงการ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567
หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1615 โทรศัพท์ 09 1047 1263 หรือ Facebook Fanpage : NHA Marketing และติดตามข่าวประชาสัมพันธ์ของ การเคหะแห่งชาติได้ที่ Facebook Fanpage : การเคหะแห่งชาติ YouTube : การเคหะแห่งชาติ channel และ Tiktok : @nhathailand
12 กุมภาพันธ์ 2567
ผู้ชม 116 ครั้ง