เมืองไทยประกันชีวิต รุก!ความคุ้มครองปี67เบี้ยโต20%ดันพอร์ตแตะ70%
เมืองไทยประกันชีวิต รุก!ความคุ้มครองปี67เบี้ยโต20%ดันพอร์ตแตะ70%
เมืองไทยประกันชีวิต รุก!ความคุ้มครองปี67เบี้ยโต20%ดันพอร์ตแตะ70%
ย้ำ!การเงินแข็งแกร่ง-คุมเข้มลงทุน!รักษาระดับผลตอบแทน 4% สู้ผันผวน
เมืองไทยประกันชีวิต เดินหน้าปักธงผู้นำแบรนด์แห่งการสร้างความสุขและรอยยิ้มอย่างยั่งยืน เปิดตัวแนวคิดการดำเนินงานประจำปี 2567 “Happiness, Your Way เพราะความสุขคือทุกอย่าง ความสุขสไตล์คุณคือที่สุดของทุกสิ่ง”
มุ่งเติมเต็มความสุขในแบบที่เป็นคุณ ตั้งเป้าเป็นอันดับหนึ่งในการเป็นคู่คิดด้านการวางแผนชีวิตและสุขภาพที่คุณวางใจ ที่เน้นตอบโจทย์ทุกความเป็นคุณ (Personal) ในทุกช่วงของชีวิต (Life)
เติมเต็มความสุข เพื่อให้คุณเป็นตัวคุณและรู้สึกดีที่สุดในรูปแบบของตัวคุณเอง แม้จะเป็นเรื่องของประกันก็ตาม เดินหน้าดันเบี้ยความคุ้มครองทั้งประกันชีวิตและสุขภาพโต 20% ในปี 67 หนุนสัดส่วนความคุ้มครองแตะ 70% จากปัจุจุบันที่ 60%
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เปิดเผยว่า ปี 2566 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรวมเติบโต 2% โดยที่มีการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับใหม่ในกลุ่มสินค้าหลัก อาทิ เบี้ยประกันภัยโรคร้ายแรงเติบโต 70% ประกันสุขภาพเติบโต 4%และ เบี้ยประกันภัยบำนาญเติบโต 13%
สำหรับปี 2567 เมืองไทยประกันชีวิตยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องความคุ้มครองทั้งประกันชีวิตและสุขภาพโดยตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยดังกล่าวเติบโต 20% ในปี 2567 เพื่อผลักดันสัดส่วนเบี้ยประกันความคุ้มครองแตะ 70% จากปัจุจุบันที่ 60%
ขณะที่ด้านธุรกิจในภูมิภาค CLMV ยังมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน ณ สิ้นปี 2566 สูงกว่า 300% ซึ่งสูงกว่าระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามเกณฑ์ที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนดที่ 140%
ด้านความแข็งแกร่งและเสถียรภาพทางด้านการเงิน บริษัทได้รับการจัดอันดับความแข็งแกร่ง ทางการเงินจาก S&P Global Ratings ที่ระดับ BBB+ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
นอกจากนี้บริษัทยังได้รับการจัดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลและภายในประเทศจาก Fitch Ratings ที่ระดับ A- และ AAA(tha) ตามลำดับ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
ซึ่งถือเป็นอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินระดับประเทศที่สูงที่สุดพร้อมรับรางวัลการันตีทั้งในด้านองค์กร ผลิตภัณฑ์ และบริการ ในระดับประเทศและระดับสากล สะท้อนถึงการได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและความสำเร็จในการดำเนินงานของบริษัทอย่างยั่งยืน
ในขณะที่สินทรัพย์อยู่ที่ 630,000 ล้านบาท โดยเป็นสินทรัพย์ลงทุนที่ 600,000 ล้านบาท โดย 80% ลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำหรือ Fix Income และอีก 20% ลงทุนในหุ้นไทยและต่างประเทศ ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 3.5-4% ซึ่งในปี 2567 จะรักษาระดับนี้ไว้จากสภาพเศรษฐกิจทั้งไทยและต่างประเทศที่ยังมีความเสี่ยงอยู่
นายสาระ กล่าวต่อไปว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมานับเป็นปีที่สำคัญของเมืองไทยประกันชีวิต ในการอยู่เคียงข้างสร้างรอยยิ้มแก่คนไทยครบ 72 ปี และยังเป็นปีที่บริษัทได้รับคะแนน NPS (Net Promoter Score) สูงถึง 58 คะแนน เพิ่มขึ้นจากปีที่ก่อนหน้าถึง 17 คะแนน
โดยคะแนนดังกล่าวบ่งชี้ความผูกพันธ์และความพึงพอใจของลูกค้าผ่านคำถามง่ายๆ ว่า ลูกค้ามีแนวโน้มจะแนะนำแบรนด์ให้กับเพื่อนหรือคนรู้จักมากน้อยเพียงใด ซึ่งสะท้อนถึงการดำเนินงานเพื่อลูกค้าอย่างครบวงจรของ MTL
ในปี 2567 นี้ เมืองไทยประกันชีวิต เดินหน้าสานต่อการเป็นคู่คิดด้านการวางแผนชีวิตและสุขภาพที่คุณวางใจ (No. 1 Most Trusted Partner in Life & Health Planning)
พร้อมเปิดตัวกลยุทธ์ประจำปี “Happiness, Your Way เพราะความสุขคือทุกอย่าง… ความสุขสไตล์คุณคือที่สุดของทุกสิ่ง” ที่จะเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจในปีนี้ เพื่อความสุขและรอยยิ้มของพนักงานภายใน พาร์ทเนอร์ ลูกค้า และสังคมอย่างยั่งยืน โดยบริษัทจะดำเนินงานผ่าน 2 แนวคิดหลัก ได้แก่
- Personal เน้นการสร้างสรรค์พัฒนาทั้งผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความเป็นคุณอย่างแท้จริง โดยใช้ภาษาที่ง่ายต่อความเข้าใจ ช่องทางที่เข้าถึงได้ง่าย และส่งมอบความเป็นตัวตนในแบบที่เป็นคุณ อาทิ ความร่วมมือในการขายประกันชีวิตและสุขภาพผ่านความร่วมมือกับ LineBK ที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ ซื้อง่าย จ่ายเบา ผ่าน Line และยังให้ข้อมูลด้วยภาษาและเงื่อนไขที่เข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยากอีกด้วย หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ของบริษัทที่ให้บริการลูกค้าอย่าง MTL Online Sales website (online.muangthai.co.th/) แอปพลิเคชัน MTL Click รวมถึงแอปพลิเคชันใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง MTL Connect ที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ตัวแทนประกันชีวิตของบริษัทในการดูแลลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้บริษัทได้มีการพัฒนาอย่างรอบด้านเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ บริการ ช่องทางการขาย ที่ใช่ที่เหมาะสม ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ในแบบที่เป็นตนเองอย่างเท่าเทียมและง่ายมากยิ่งขึ้น ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ทุกบทบาทชีวิต ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งคนตัวเล็ก คนตัวใหญ่ เพราะเราเข้าใจทุกความแตกต่างและความเสี่ยงของแต่ละคน
- Life มุ่งสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ทุกช่วงชีวิตของผู้คนทุกกลุ่ม เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองต้องการได้อย่างเต็มที่ จึงมีการดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงกันอย่างครบด้าน ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพเพื่อส่งมอบความคุ้มครองให้กับคุณและคนที่คุณรัก การส่งเสริมการดูแลสุขภาพที่ดีเพื่อลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วย การรักษาอย่างครอบคลุมและตรงจุด และสิทธิประโยชน์สำหรับทุกๆ ไลฟ์สไตล์ ซึ่งโครงการเหล่านี้ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกันและเอื้อให้ทุกๆ คน ทั้งลูกค้าของบริษัทและประชาชนทั่วไปที่ยังไม่ได้เป็นลูกค้าของบริษัทสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เช่น บุคคลทั่วไปสามารถใช้แอปพลิเคชัน MTL Fit เพื่อเก็บข้อมูลการออกกำลังในรูปแบบต่างๆ พร้อมสะสมคะแนนเพื่อนำไปใช้แลกเป็นสิทธิประโยชน์อย่างส่วนลดค่าเบี้ยประกันสุขภาพ จากนั้นเมื่อลูกค้าจ่ายเบี้ยประกันภัย นอกจากจะได้รับความคุ้มครองสุขภาพตามแผนที่ลูกค้าเลือกสรร เบี้ยประกันภัยดังกล่าวจะถูกนำไปคำนวนเป็นคะแนน Smile Point เพื่อแลกรับสิทธิพิเศษต่างๆ จากเมืองไทยสไมล์คลับต่อไป นอกจากนี้เมื่อเจ็บป่วย บริษัทก็มีสถานพยาบาลในเครือข่ายมากกว่า 860 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ตามที่ตนเองต้องการ
อย่างไรก็ตาม เมืองไทยประกันชีวิต สามารถส่งมอบความสุขและรอยยิ้มได้ตามแนวทางที่วางไว้ โดยการนำเอา เทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ามาช่วยเติมเต็ม ทั้ง AI, Machine Learning, Automation และ Digital Tools อื่นๆ ในทุกๆ กระบวนการ
ทั้งการขาย การพิจารณารับประกัน การพิจารณาสินไหม ธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับกรมธรรม์ เพื่อตอบโจทย์ร่วมกับพาร์ทเนอร์ทางการขายและเจ้าหน้าที่บริการ
ซึ่งทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น เพื่อมอบความสุขในทุกรูปแบบของผู้คนทุกกลุ่มในทุกช่วงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นพนักงานภายใน พาร์ทเนอร์ ลูกค้า และบุคคลต่างๆ ในสังคม
นอกจากนี้การดำเนินธุรกิจของเมืองไทยประกันชีวิตไม่ได้เน้นการเติบโตด้านรายได้แต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนอีกด้วย
นายสาระ กล่าวถึงการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของบริษัทเมืองไทยประกันชีวิตไว้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนคือการประสานความยั่งยืนให้เป็นหนึ่งเดียวกับการดำเนินธุรกิจในทุกๆวัน ทั้งนี้ธุรกิจหลักของบริษัทเป็นเรื่องของประกันชีวิต
จึงทำให้ความยั่งยืนแรกในมิติสังคมเกี่ยวข้องกับประกันชีวิตโดยตรง กล่าวคือ มุ่งสร้างการเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุกคน (Democratize Insurance) ไม่ว่าจะเป็นการขยายอายุรับประกันภัยสำหรับแบบประกันภัยหลักๆ ถึง 90 ปี พร้อมให้ความคุ้มครองต่อเนื่องสูงสุดถึงอายุ 99 ปี
การพัฒนาแบบประกันภัยสำหรับคนที่เข้าไม่ถึงแบบประกัน ด้วยข้อจำกัดทั้งด้านอายุ โรคประจำตัวที่เป็นอยู่ หรือไหวแค่ไหนก็ออกแบบให้เข้าถึงได้เพื่อสร้างความอุ่นใจโดยไม่เป็นภาระ
รวมถึงการเปิดการเข้าถึงความคุ้มครองและสุขภาพที่ดีในรูปแบบใหม่ๆ ตามสภาวะโลกที่เปลี่ยนไป สำหรับมิติสิ่งแวดล้อม เมืองไทยประกันชีวิต ได้ลงทุนและเปิดโอกาสให้ลูกค้า Unit-Linked สามารถลงทุนในสินทรัพย์สีเขียว
ไม่ว่าจะเป็น ตราสารหนี้สีเขียว (Green Bond) ตราสาร ESG (ESG Bond) และตราสารส่งเสริมความยั่งยืน พร้อมปลูกฝังวัฒนธรรมสีเขียวให้แก่พนักงานในองค์กร อาทิ การแยกขยะ การลดใช้ทรัพยากรสิ้นเปลือง การลดใช้กระดาษผ่านกระบวนการดิจิทัลต่างๆ การเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น
เพื่อให้มีการขยายผลสู่สังคมในวงกว้างต่อไป ท้ายที่สุดบริษัทยังยึดมั่นและให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจด้วยการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการบริหารความเสี่ยงตามมาตรฐานสากล และรักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณสูงสุดอย่างเคร่งครัดเป็นสำคัญ
ตามพันธกิจด้านความยั่งยืนที่ว่า “บริษัทยึดมั่นการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม
โดยคำนึงถึงการสร้างสมดุลทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม มิติสังคม และมิติบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (ESG) เพื่อสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย”
29 มกราคม 2567
ผู้ชม 121 ครั้ง