สถิติ

70522130

ตลาดรับสร้างบ้านปี66 200,000ลบ."ไม่โต แต่ไม่ฟุบ"

หมวดหมู่: ตลาด/ไอที

   ตลาดรับสร้างบ้านปี66 200,000ลบ."ไม่โต แต่ไม่ฟุบ"
   แนวโน้มรอจังหวะฟื้นตัวรับโอกาส ความท้าทาย ปี67

                   

   มูลค่าตลาดบ้านสร้างเอง หรือ รับสร้างบ้านบ้านทั่วประเทศมีจำนวนรวมทั้งระบบกว่า 200,000 กว่าล้านบาทต่อปี ถือเป็นอีกหนึ่งกำลังขับเคลื่อนเศรษกิจของประเทศ ที่เตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ และคว้าโอกาสใหม่ที่จะเกิดขึ้นในปี 2567

   นายโอฬาร จันทร์ภู่ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association : HBA) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างในปี 2566 เป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายจากข้อจำกัดทางธุรกิจนับจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ และความสามารถทางการเงินของผู้บริโภค

   รวมทั้งค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงจากต้นทุนสินค้าและอัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีผลต่อการวางแผนปลูกสร้างบ้านให้ต้องชะลอการตัดสินใจออกไปแบบไม่มีกำหนด

   ทำให้ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านปี 2566 อยู่ในสถานการณ์ที่ทรงตัว โดยที่ไม่มีปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดเติบโต และในขณะเดียวกันยังไม่เกิดภาวะถดถอยมากนัก เนื่องจากเป็นตลาดที่มีเรียลดีมานด์สูงมาก

   ตัวเลขจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ REIC พบว่าทั้งระบบของตลาดนี้ โดยเป็นบ้านสร้างเอง หรือ รับสร้างบ้านบ้านทั่วประเทศ มีมูลค่ารวมกว่า 200,000 กว่าล้านบาทต่อปี

   ขณะที่สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านได้จัดเก็บตัวเลขยอดเซ็นสัญญาสร้างบ้านจากสมาชิกในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2566 พบว่ามูลค่ารวมอยู่ที่ 9,000 กว่าล้านบาท

   คาดว่าถึงสิ้นปี บ้านที่สร้างกับบริษัทสมาชิกของสมาคมรับสร้างบ้าน จะมีมูลค่าราว 12,500 ล้านบาท เท่ากับปี 2565 จากเมื่อต้นปีประมาณการณ์ว่า มูลค่าตลาดจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 13,250 ล้านบาท ในปลายปีนี้

แนวโน้มภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านปี 2567

   ตลาดรับสร้างบ้านในปี 2566 ยังมีการขยายกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภูมิภาคมีอัตราการเติบโตที่ดี แสดงให้เห็นว่าความต้องการบ้านพักอาศัย (เรียลดีมานด์) ยังมีอยู่ จึงน่าจะเป็นแรงส่งให้ตลาดรับสร้างบ้านในปี 2567 มีโอกาสขยายตัวต่อเนื่อง

   จากผู้บริโภคที่เริ่มรับรู้และหันมาใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านมากขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม เช่น คาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว

   นอกจากนี้ สมาคมฯ ได้ร่วมกับอีก 6 องค์กรด้านอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย คณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย

   สมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย ร่วมจัดทำข้อเสนอแนะแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อยื่นให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

   โดยทางสมาคมฯ ได้เตรียมข้อเสนอให้มีการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้านบนที่ดินของตนเอง ทั้งนี้จะยึดเอามูลค่าการก่อสร้างบ้านตามสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างที่ติดอากรแสตมป์ (อ.ส.4) กับกรมสรรพากร

   เพื่อนำไปเป็นหลักฐานการลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาในรอบภาษีปีถัดไปได้ในอัตราลดหย่อนล้านละ 10,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท

   ซึ่งจะช่วยลดภาระให้กับผู้ที่ต้องการการปลูกสร้างบ้านบนที่ดินของตนเอง รวมทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจทุกภาคส่วนที่เชื่อมโยงกับธุรกิจรับสร้างบ้านได้ด้วย

   ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวยังเป็นการจูงใจให้บริษัทผู้รับสร้างบ้านที่ทำธุรกิจอยู่ทั่วประเทศ และยังไม่ได้จดทะเบียนนิติบุคคล จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ

   “เชื่อมั่นว่ามาตรการขอลดหย่อนภาษีจะช่วยเร่งการตัดสินใจของผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านเองให้ตัดสินใจสั่งสร้างบ้านได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศโดยรวมเติบโตตามไปด้วย” นายโอฬาร กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

   แนวโน้มภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในปี 2567 ยังต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการรับมือกับปัจจัยลบ เช่น อัตราดอกเบี้ย และความไม่แน่นอนของราคาน้ำมัน รวมถึงการอ่อนค่าของเงินบาทที่จะมีผลต่อต้นทุนวัสดุก่อสร้างรวมถึงค่าขนส่งได้

31 ธันวาคม 2566

ผู้ชม 89 ครั้ง

Engine by shopup.com