เอ็มที แอสเสท สบช่อง!เสริมแกร่งพอร์ตอสังหาฯปล่อยเช่า
เอ็มที แอสเสท สบช่อง!เสริมแกร่งพอร์ตอสังหาฯปล่อยเช่า
เอ็มที แอสเสท สบช่อง!เสริมแกร่งพอร์ตอสังหาฯปล่อยเช่า
ปั้น MT Khu Khot Lifestyle Mall Q2ปี67-3ปีเข้ากองREIT
เอ็มที แอสเสท ดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำจากโซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือ เดินเครื่องเร่งพัฒนา เอ็มที คูคต ไลฟ์สไตล์ มอลล์ (MT Khu Khot Lifestyle Mall) รองรับดีมานด์ที่อยู่ย่านคูคตพุ่ง พร้อมกำหนดเปิดตัวทางการในไตรมาสสองปี 67 และวางแผนนำเข้ากอง REIT ในอีก 3 ปี
ดร.วรพจน์ กันตพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มที แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ภายหลังรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เปิดให้บริการ วิ่งเชื่อมกรุงเทพฯ และปทุมธานี ทำให้ราคาที่ดินโซนคูคตพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จนถึงวันนี้ สูงทะลุ 100% ไปแล้วเมื่อเทียบกับราคาเมื่อปี 2563 ก่อนมีบีทีเอส ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เกิดโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ ทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมเกาะแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายนี้เพิ่มขึ้น เพื่อขานรับดีมานด์จากฝั่งผู้ซื้อที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ทั้งที่ซื้อเพื่ออยู่จริงและเพื่อลงทุน เรียกได้ว่าตอนนี้ คูคตกำลังจะเป็นทำเลทองของโซนกรุงเทพฯ เหนือไปแล้ว จึงเป็นเหตุผลที่เอ็มที แอสเสทนำโครงการรีเทลที่มีอยู่แล้ว
ซึ่งติดถนนลำลูกกา ห่างจากสถานีคูคตเพียง 400 เมตร ขึ้นมารีโนเวท โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 100 ล้านบาท เพื่อทำเป็นไลฟ์สไตล์มอลล์ ในชื่อ MT Khu Khot Lifestyle Mall
โครงการ MT Khu Khot Lifestyle Mall เป็นการนำ MT Arena Sport & Lifestyle Mall มารีโนเวทและต่อเติมเริ่มทำตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยเอ็มที แอสเสทยังคงรูปแบบธุรกิจที่เป็นโครงการอสังหาฯ เพื่อปล่อยเช่า แต่เน้นเพิ่มพื้นที่รีเทลมากขึ้น
เพื่อรองรับปริมาณผู้บริโภคในพื้นที่ที่กำลังขยายตัว และเพื่อเพิ่มรายได้จากการเก็บค่าเช่าพื้นที่โครงการดังกล่าวมีเนื้อที่ 10 ไร่ ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ อาคารหนึ่งชั้นที่เป็น Makro Food Service พื้นที่ 4,400 ตร.ม.
ส่วนที่สองเป็น Starbucks Drive Thru แห่งแรกบนถนนลำลูกกา ซึ่งทั้งสองส่วนได้เปิดให้บริการแล้ว และส่วนสุดท้ายเป็นมอลล์ ขนาด 3 ชั้น จำนวน 16 ยูนิต ที่จะเป็น food destination แห่งแรกและแห่งเดียวในย่านคูคต รวมพื้นที่ขาย 1,600 ตร.ม.
ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว 70% และได้เปิดขายพื้นที่แล้วตั้งแต่กลางปี ล่าสุดปิดได้แล้ว 40% โดยตั้งเป้าจะปิดการขายได้ทั้งหมดและส่งมอบพื้นที่ให้กับผู้เช่าได้ในไตรมาสแรกปี 2567 พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในไตรมาสสอง
“ร้านค้าในมอลล์จะเป็นประเภทอาหารและเครื่องดื่ม 12 ยูนิต และให้บริการด้านสุขภาพและความงามอีก 4 ยูนิต โดยมีค่าเช่าเริ่มต้นที่ 500 บาท/ตร.ม. สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะมีทั้งผู้อาศัยและทำงานในรัศมี 5 กิโลเมตรรอบโครงการฯ
ครอบคลุมโซนลำลูกกา รังสิต สายไหม ผู้ใช้บริการบีทีเอส สถานีคูคต และอาคารจอดแล้วจร สถานีคูคตและแยก คปอ. ที่มีผู้นำรถยนต์และจักรยานยนต์มาจอดต่อวันกว่า 2,100 คัน
รวมถึงข้าราชการจากหน่วยงานราชการต่างๆ และกองทัพอากาศ ผู้ปกครองและนักเรียนจากโรงเรียนโดยรอบ เช่น โรง เรียนผ่องสุวรรณ โรงเรียนสายไหม เป็นต้น
ผู้มาใช้บริการและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสินแพทย์ ลำลูกกา ที่อยู่ห่างไปเพียง 400 เมตร นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบกิจการภายในโฮมออฟฟิศ "MT ลำลูกกา" จำนวน 108 ยูนิต ซึ่งอยู่ติดกับ MT Khu Khot Lifestyle Mall และลูกค้าที่มาติดต่อธุรกิจอีกด้วย
ที่กล่าวมานี้ยังไม่รวมถึงอานิสงส์จากดีมานด์มหาศาลที่มาจากโครงการขนาดใหญ่ของดีเวลลอปเปอร์บิ๊กแบรนด์ต่างๆ ที่ทยอยเปิดตัวในย่านคูคต โดยเมื่อโครงการฯ เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว บริษัทคาดว่าจะมีผู้มาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 3,000 คนในวันธรรมดา และเพิ่มเป็นสองเท่าในช่วงสุดสัปดาห์และวันหยุดพิเศษ
ดร.วรพจน์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทมั่นใจว่าโครงการ MT Khu Khot Lifestyle Mall จะได้รับการตอบรับอย่างดีตั้งแต่ช่วงเปิดตัว และสามารถรักษาอัตราการเช่าพื้นที่(occupancy rate) ได้ไม่ต่ำกว่า 90%
อีกทั้งจะสามารถถึงจุดคุ้มทุนจากงบรีโนเวทที่ลงไปภายในไม่ถึง 3 ปี เนื่องจากที่ตั้งของโครงการฯ เป็นทำเลศักยภาพสูง ห่างจากสถานีบีทีเอสคูคต เพียง 400 เมตร โครงการฯ สามารถเก็บค่าเช่าได้ทั้งจากธุรกิจประเภทค้าส่ง อย่าง Makro Food Service และค้าปลีก อย่างร้านค้าแบรนด์ต่างๆ ในส่วนของมอลล์
นอกจากนี้บริษัทยังจะคัดสรรกิจการร้านค้าที่มีความหลากหลายสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และมอบความสะดวกสบายแก่ชาวคูคตให้ได้มากที่สุด
โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะนำโครงการ MT Khu Khot Lifestyle Mall เข้าระดมทุนผ่านกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT ในอีก 3 ปีหลังเปิดให้บริการในปีหน้า เพื่อนำเงินมาพัฒนาโครงการใหม่ต่อไป” ดร.วรพจน์ กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า
สำหรับภาพรวมธุรกิจของเอ็มที แอสเสท นั้นบริษัทมีจุดแข็งที่ประสบการณ์ในการพัฒนา บริหาร และขายโครงการอสังหาฯ มาหลากหลายประเภท และอยู่มานานกว่า 40 ปี
โดยปัจจุบันมีทำเลยุทธศาสตร์อยู่ในโซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือ ได้แก่ เขตดอนเมือง สายไหม บางเขน จังหวัดนนทบุรี ต่อไปถึงพื้นที่จังหวัดปทุมธานี อย่างลำลูกกาและคลองหลวง บริษัทเน้นการดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์กระจายความเสี่ยง หรือ Diversification Strategy มาตลอด
โดยแบ่งพอร์ตออกเป็นสองด้าน ได้แก่ โครงการเพื่อการขายและปล่อยเช่า ซึ่งมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 70:30 ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจไปพร้อมกับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดใหม่ๆ และเพิ่มคุณค่าให้กับแบรนด์ MT อีกด้วย
สำหรับโครงการเพื่อการขายบริษัทมีประสบการณ์ในการทำทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม โฮมออฟฟิศ มินิแฟคตอรี่ รวมถึงซื้อขายที่ดินเปล่าจัดสรร ขณะที่โครงการเพื่อปล่อยเช่า มีตั้งแต่ไลฟ์สไตล์มอลล์ ตลาดสด อพาร์ทเม้นท์ ไปจนถึงโรงแรม
“ในส่วนของผลการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทรับรู้รายได้จากการขายที่ 145 ล้านบาท และจากการปล่อยเช่า 45 ล้านบาท ซึ่งรวมแล้วเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ราว 50%
ส่วนของปีนี้จนถึงไตรมาสสาม รับรู้รายได้รวมไปแล้วกว่า 160 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขาย 120 ล้านบาท และจากการปล่อยเช่า 40 ล้านบาท โดยคาดว่าปีนี้จะทำรายได้ทั้งสิ้นอยู่ราว 210 ล้านบาท จากการปิดโครงการคอนโดมิเนียม MT Residence คลองหลวง จำนวน 312 ยูนิต
ที่ตอนนี้มีการโอนไปแล้วมากกว่า 80% รวมกับรายได้ส่วนค่าเช่าจากโครงการต่างๆ ในมือ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทสามารถรักษาโมเมนตัมการเติบโตต่อเนื่องได้อีกปีที่ 10%” ดร.วรพจน์ กล่าวสรุป
19 พฤศจิกายน 2566
ผู้ชม 100 ครั้ง