สถิติ

70532401

"เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี" เปิดตัวธุรกิจห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า  

หมวดหมู่: ตลาด/ไอที

   "เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี" เปิดตัวธุรกิจห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า

   ภายใต้แบรนด์"MESPACE"ห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่าที่มีพื้นที่มากที่สุด

  

  • รีเฟรชภาพลักษณ์ “JWD Store It” ใหม่ในชื่อ “MeSpace” ปรับแบรนด์ให้ใกล้ชิดกับผู้บริโภค รองรับเทรนด์การเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจพื้นที่เก็บของส่วนตัวให้เช่า ผนึกกำลังพันธมิตรอย่าง “ซีพีเอ็น” ปูพรมขยายพื้นที่ให้บริการทั่วไทย พร้อมแชร์เทคโนโลยีกับ “StorHub” ยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของเอเชีย ตอกย้ำผู้นำตลาดห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่าอันดับหนึ่งในไทย

   บริษัท มีสเปซ เซลฟ์ สโตเรจ จำกัด บริษัทในเครือ บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการชั้นนำในอาเซียนด้านโลจิสติกส์ครบวงจรและบริหารจัดการซัพพลายเชน นำโดย ชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน)

   ร่วมด้วย ดร. เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีสเปซ เซลฟ์ สโตเรจ จำกัด ประกาศเปิดตัวธุรกิจบริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่านอกบ้าน MeSpace Self Storage (มี สเปซ เซลฟ์ สโตเรจ)

   ที่มีโซลูชันให้เลือกหลากหลายตามความต้องการมากที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ ห้องเก็บของส่วนตัวที่มีขนาดให้เลือกตามความต้องการ, ตู้นิรภัย, ห้องเก็บไวน์, บริการรับ-ส่ง-เก็บของผ่านแอปพลิเคชัน ฯลฯ

   ที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองที่ประสบปัญหาพื้นที่ใช้สอยในที่พักมีจำกัด ตอกย้ำภาพผู้นำอันดับหนึ่งด้านบริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่าในไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “More Space MeSpace ปลอดภัย ง่าย สะดวก”

   นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทดำเนินธุรกิจให้บริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่ามาตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 หรือ 9 ปีมาแล้วในชื่อJWD Store It

   เพื่อเป็นการตอบรับเทรนด์การเติบโตของธุรกิจ Self Storage ในอนาคตและทำให้แบรนด์ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น จึงได้เปลี่ยนชื่อจาก JWD Store It ให้เป็น “MeSpace

   โดยต้องการรีเฟรชภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความโดดเด่น เข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมายและเข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ปัจจุบัน MeSpace เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก 2 กลุ่ม

   ได้แก่ กลุ่ม B2C เจ้าของบ้านและคนทั่วไปที่อาศัยในบ้านหรือคอนโดแต่ต้องการพื้นที่เก็บของมากขึ้น และ กลุ่ม B2B ได้แก่ นักธุรกิจ แม่ค้าออนไลน์ หรือ เจ้าของบริษัทที่ต้องการเก็บสต๊อกสินค้า สินค้าคงคลัง อุปกรณ์ ตลอดจนเอกสารสำนักงานต่างๆ

   โดยตลาดเอเชียถือได้ว่าเป็นปีแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม Self Storage เพราะมีการนำและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ

   คาดการณ์ว่าตลาด Self Storage ในเอเชียแปซิฟิกจะมีอัตราเติบโต (CAGR) ที่ 8.36% ในช่วงปี 2565-2570 ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์การเติบโตของทั้งตลาดทั่วโลกเกือบเท่าตัว

   สำหรับตลาดประเทศไทยในปี 2023 เป็นปีที่ธุรกิจ Self storage เติบโตได้ดี สังเกตได้จากการเปิดสาขาเพิ่มเติมของผู้ให้บริการแต่ละรายในพื้นที่รอบกรุงเทพฯ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว รวมถึงอานิสงส์จากการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัย

   โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในเมืองที่พบว่าตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ขนาดห้องเล็กลง เช่น คอนโดฯ 1 ห้องนอน เดิมมีขนาด 65 ตร.ม. ปัจจุบันเหลือพื้นที่เพียง 28 ตร.ม. ทำให้เกิดความต้องการพื้นที่จัดเก็บเพิ่มขึ้น นอกจากนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงยังช่วยกระตุ้นให้เกิดความต้องการพื้นที่จัดเก็บของเพิ่มขึ้น

   ทั้งนี้ มีสเปซ เซลฟ์ สโตเรจ บริษัทในเครือเอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี มั่นใจในศักยภาพสู่การเป็นผู้นำตลาดห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่าอันดับหนึ่งในไทย จากการเป็นผู้นำในธุรกิจ Logistics และ Supply Chain

   สามารถเชื่อมต่อบริการกับธุรกิจภายในเครือ ทำให้ลูกค้าได้รับบริการที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น รวมถึงการมีพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่งอย่าง CPN ผู้นำอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยในการจัดหาพื้นที่ให้บริการและการขยายตลาด

   และ STORHUB ผู้นำธุรกิจ Self Storage ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียในการแชร์เทคโนโลยีและระบบการจัดการ สามารถตอบโจทย์การให้บริการลูกค้าได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ

   ทางด้าน ดร. เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีสเปซ เซลฟ์ สโตเรจ จำกัด กล่าวถึง 5 ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เกิดความต้องการพื้นที่เก็บของนอกบ้าน ได้แก่ 1) การเติบโตของเมือง 2) การทำงานที่บ้าน 3) การสะสมสิ่งของ 4) การย้ายบ้านหรือปรับปรุงบ้าน 5) การเติบโตของธุรกิจขายของออนไลน์

   โดยเป้าหมายของ MeSpace คือ ต้องการทำให้การใช้ชีวิตในเมืองเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เพราะเราเข้าใจในวิถีชีวิตคนเมืองที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด จึงมีบริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่านอกบ้าน

   ด้วย 3 จุดแข็งและกลยุทธ์หลักที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของ MeSpace บริษัทผู้นำอันดับหนึ่งด้านบริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่าในประเทศไทย ได้แก่

  • Convenience: สะดวกสบาย ใกล้บ้านด้วยจำนวนสาขาที่มากที่สุดในประเทศไทย (10 สาขา นับรวมสาขาที่จะเปิดใหม่ภายในต้นปี 2567) คิดเป็นพื้นที่ให้บริการ 28,000 ตร.ม. ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร และมีการขยายสาขาไปยังหัวเมืองต่างจังหวัด
  • Flexible Solutions: มีโซลูชันพื้นที่เก็บของที่หลากหลายให้เลือกได้ตามความต้องการและงบประมาณ ตั้งแต่ห้องเก็บของหลากหลายขนาด ตู้ล็อกเกอร์ ห้องเก็บไวน์ ห้องเก็บของนิรภัย และ ตู้รับฝากของอัตโนมัติ เริ่มต้นเพียง 499 บาท/เดือน (เช่าขั้นต่ำ 1 เดือน) พร้อมบริการรับ-ส่งของเพื่อนำมาเก็บในพื้นที่เก็บของ ผ่านแอปพลิเคชัน CloudRoom รวมถึงบริการเสริมอื่นๆ เช่น บริการขนย้ายพร้อมติดตั้งด้วยผู้เชี่ยวชาญ, บริการจัดเก็บ-แพ็ก-ขนส่ง สำหรับธุรกิจ SME เป็นต้น
  • Worry-free Care: มั่นใจด้วยการดูแลระดับพรีเมียมในพื้นที่จัดเก็บ ติดระบบปรับอากาศทุกสาขา ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และแพ็คเกจประกันภัยที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ รวมถึงการออกแบบห้องเก็บของที่คำนึงถึงความปลอดภัยตามมาตรฐานห้องเก็บของระดับสากล

   ปัจจุบันมีสเปซ เปิดให้บริการครอบคลุมทั้งใน กรุงเทพฯ, ภูเก็ต และ พัทยา รวม 9 สาขา ล่าสุดได้เปิดสาขาบางซื่อ เป็นสาขาที่ 9 และภายในต้นปี 2567 มีแผนเปิดสาขารัชดา-พระราม 9 ซึ่งเป็นสาขาที่ 10 ถือเป็นผู้ให้บริการที่มีพื้นที่ให้บริการมากที่สุดอันดับหนึ่งในประเทศไทย

   คิดเป็นพื้นที่ให้บริการทั้งหมดประมาณ 28,000 ตร.ม. หรือ คิดเป็นการเติบโตของพื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้นประมาณ 78% เมื่อเปรียบเทียบระหว่างปี 2023 กับปี 2022 โดยคาดการณ์รายได้ปี 2023 ประมาณ 70 ล้านบาท และรายได้ปี 2024 ประมาณ 108 ล้านบาท

   โดยอัตราการเติบโตของรายได้ในปี 2024 คิดเป็น 53% สำหรับแผนการเติบโตในปีถัดไปเรามีเป้าหมายที่จะทำให้ Self Storage เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองมากขึ้น

   โดยมุ่งปรับปรุงระบบการให้บริการเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและมีประสบการณ์ที่ดีและสะดวกสบายในการใช้บริการมากขึ้น พร้อมด้วยแผนงานขยายพื้นที่ให้บริการในอนาคต  

   ปัจจุบันพื้นที่ให้บริการของ MeSpace คิดเป็นประมาณ 25-30% ของพื้นที่ให้บริการทั้งหมดภายในประเทศและมีการวางแผนขยายพื้นที่ให้บริการอย่างต่อเนื่องผ่านทาง CPN

   โดย นายวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ Head of Community Mall and International Business Development บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวเสริมว่า ทาง ซีพีเอ็น ในฐานะผู้ถือหุ้นให้การสนับสนุนด้านการจัดหาพื้นที่ให้บริการใหม่ผ่าน Mixed Use Property ของ CPN

   รวมถึงการขยายฐานลูกค้าของ MeSpace ไปยัง Residential Property โดยเชื่อว่าจะช่วยเติมเต็มความต้องการให้กับลูกค้าบ้านและคอนโดในเครือ CPN ที่ต้องการพื้นที่เก็บของ หรือหาพื้นที่ระหว่างการเตรียมย้ายที่อยู่อาศัยใหม่อีกด้วย

13 พฤศจิกายน 2566

ผู้ชม 276 ครั้ง

Engine by shopup.com