สถิติ

71297572

"ซีเค พาวเวอร์" คว้าสองรางวัลระดับโลก    

   "ซีเค พาวเวอร์" คว้าสองรางวัลระดับโลก

   "ผู้นำองค์กรยอดเยี่ยม-ต้นแบบกลยุทธ์ความยั่งยืนยอดเยี่ยม"

              

“ซีเค พาวเวอร์ มุ่งมั่นและมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการสนับสนุนประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน
ให้ก้าวสู่การเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิตไฟฟ้าเพื่อก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

ในอนาคต เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)

   บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower (ชื่อย่อหลักทรัพย์: CKP) คว้าสองรางวัลใหญ่ระดับโลกด้านความยั่งยืน (ประเภทกลุ่มธุรกิจพลังงาน) จาก The European Global Business Awards 2023 ประเทศอังกฤษ

   ได้แก่ รางวัลผู้นำองค์กรด้านความยั่งยืนยอดเยี่ยม ให้กับ นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ซีเค พาวเวอร์ (Best Leadership in the Sustainable Energy Industry: Mr. Thanawat Trivisvavet–Thailand) และรางวัลองค์กรต้นแบบกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนยอดเยี่ยม (Best Sustainable Development Strategy, Energy Sector–Thailand)

   นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ซีเค พาวเวอร์ รู้สึก เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทาง The European นิตยสารธุรกิจชั้นนำของประเทศอังกฤษ ได้เล็งเห็นถึงความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ในการดำเนินงานของกลุ่มซีเค พาวเวอร์

   คือ การเป็นองค์กรพลังงานสะอาดสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการจัดทำยุทธศาสตร์ระยะยาวด้านความยั่งยืน

   โดยได้นำเอาแนวคิดเรื่อง ESG (Environmental, Social and Governance) นี้ มาพัฒนาเป็นแผนการดำเนินงาน 5 ปีสู่ความยั่งยืน (พ.ศ. 2565-2569) ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก คือ ซี (C) เค (K) พี (P)

   โดยครอบคลุมมิติ สิ่งแวดล้อม สังคม ชุมชน บรรษัทภิบาล และเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน ได้แก่ C: Clean Electricity การมุ่งมั่นในการผลิตไฟฟ้าสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

   K: Kind Neighbor มุ่งมั่นในการเคารพสิทธิมนุษยชนตลอดจนดูแลสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืน และ P: Partnership for life คือ การบริหารงานอย่างเป็นธรรมพร้อมความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ

   นายธนวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับ ซีเค พาวเวอร์ ได้ขับเคลื่อนองค์กรให้เป็นหนึ่งในผู้นำการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีทิศทางการดำเนินธุรกิจที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อมุ่งสร้างความสมดุลระหว่างการดำเนินธุรกิจ

   การรักษาสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และการกำกับกิจการที่ดี พร้อมกันนี้ยังได้ปลูกฝังให้พนักงานทุกคนมี DNA ของ การเป็นผู้นำองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านพลังงานหมุนเวียนในการร่วมสร้างสังคมคุณภาพที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของ SDGs

   เพื่อเพิ่มการเข้าถึงพลังงานหมุนเวียนและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีส่งต่อไปยังชุมชนต่างๆ ทั้งในประเทศ และ สปป.ลาว อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้ง 2 รางวัลข้างต้นสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจ

   และมุ่งมั่นของผู้บริหารและพนักงานทุกคนในการร่วมสร้างความยั่งยืนและความมั่นคงทางพลังงานเพื่อยกระดับการทำงานให้เกิดการเติบโตขององค์กรและสังคมต่อไป

   “ซีเค พาวเวอร์ พร้อมสนับสนุนและร่วมส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงานด้วยการพัฒนาและติดตามดูแลโรงไฟฟ้าต่างๆ ให้มีการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งมอบไฟฟ้าได้ตามต้องการ

   สอดคล้องกับแผน PDP หรือแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (Thailand Power Development Plan) ที่มุ่งสร้างเสถียรภาพทางพลังงาน สนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

   ด้วยการสร้าง Ecosystem ให้พร้อมรองรับการลงทุนใหม่ๆ จากภายในประเทศและนานาชาติ และคำนึงถึงการผลิตและส่งมอบไฟฟ้าให้กับประชาชน รวมถึง ภาคส่วนต่างๆ ได้อย่างเพียงพอและต่อเนื่อง ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง (Blackout) ดังเช่นที่หลายประเทศประสบ” นายธนวัฒน์ กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

   ซีเค พาวเวอร์ ตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตจากพลังงานหมุนเวียนจากเดิม 93% เป็น 95% หรือ 4,800 เมกะวัตต์ ภายในปี พ.ศ. 2567 โดยการลงทุนโครงการใหม่และกำลังการผลิตติดตั้งทั้งหมดจะมาจากพลังงานหมุนเวียน ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ และพลังงานลม ในปี พ.ศ. 2565

   โรงไฟฟ้าในกลุ่มบริษัทสามารถผลิตไฟฟ้าสะอาดส่งให้ประเทศไทยได้ กว่า 9.5 ล้านเมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) คิดเป็น 5% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดของประเทศ และคิดเป็นกว่า 18% ของไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ใช้ในประเทศทั้งหมด

   นอกจากนี้ยังได้ตั้งเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก โดยตั้งเป้าว่าภายในปี 2566 จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 723,674 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e)

   และล่าสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน สามารถทำได้ที่ระดับ 354,851 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) ซึ่งดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ บริษัทจะยังคงเดินหน้ารักษามาตรฐานการดำเนินงานนี้ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

   นอกจากนี้บริษัทยังมีโครงการลดการใช้พลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรภายในองค์กร อาทิ การเพิ่มสัดส่วนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนเพิ่มการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนภายในองค์กรจากเดิม 88% เป็น 92% ภายในสิ้นปีนี้

   The European เป็นนิตยสารชั้นนำด้านธุรกิจจากประเทศอังกฤษ และให้ความสำคัญกับการเสนอองค์กรตัวอย่างที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างโดดเด่น แม้จะมีความท้าทายมากขึ้นทั่วโลก

   เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการดำเนินงานด้าน ESG โดยได้มีการจัดการประกาศผลรางวัล The European Global Business Awards อย่างต่อเนื่องสู่ปีที่ 9 ในปัจจุบัน

10 ตุลาคม 2566

ผู้ชม 292 ครั้ง

Engine by shopup.com