BKI ปรับโครงสร้างจัดตั้ง "บีเคไอ โฮลดิ้งส์" ขยายลงทุนใน/ตปท.
BKI ปรับโครงสร้างจัดตั้ง "บีเคไอ โฮลดิ้งส์" ขยายลงทุนใน/ตปท.
BKI ปรับโครงสร้างจัดตั้ง "บีเคไอ โฮลดิ้งส์" ขยายลงทุนใน/ตปท.
โชว์!ครึ่งปีแรก66กำไรพุ่ง1,690ลบ.โต153.6%-เบี้ยรวม13,868.6ลบ.
ผลการดำเนินงานของกรุงเทพประกันภัย งวด 6 เดือนแรกของปี 2566 มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 13,868.6 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 12.3 มีกำไรสุทธิ 1,690.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 153.6
ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ฟื้นตัวแข็งแกร่ง มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 6,619.5 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 15.5 กำไรสุทธิ 806.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 88.1 บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 3.75 บาท
พร้อมมีมติเห็นชอบแผนปรับโครงสร้าง จัดตั้งบริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อขยายธุรกิจ เพิ่มศักยภาพการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป
ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 (เม.ย.-มิ.ย.) มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 6,619.5 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.5
มีผลกำไรสุทธิจากการรับประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแล้ว 599.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 127.8 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิจากการรับประกันภัย 2,157.3 ล้านบาท เนื่องจากมีการจ่ายสินไหมทดแทนโควิด-19 ของปีก่อน
บริษัทมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 312.5 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีจำนวน 3,107.5 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 89.9 และมีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 911.9 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4.0
โดยเมื่อหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้ว บริษัทมีกำไรสุทธิ 806.3 ล้านบาท กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 7.57 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 428.6 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 88.1
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-มิ.ย.) บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 13,868.6 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.3
มีผลกำไรสุทธิจากการรับประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแล้ว 1,064.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 114.6 มีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 691.6 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 83.0 และมีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 1,756.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 154.3
โดยเมื่อหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้ว บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,690.0 ล้านบาท กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 15.87 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งขาดทุนสุทธิ 3,151.9 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 153.6
โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทซึ่งได้ประชุมเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566 มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2566 แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 3.75 บาท ในวันที่ 8 กันยายน 2566
พร้อมกันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติแผนการปรับโครงสร้างของบริษัท โดยการจัดตั้ง บริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ขึ้นมาเพื่อประกอบธุรกิจเป็นบริษัทลงทุน (Holding Company)
ซึ่งบริษัทโฮลดิ้งส์จะสามารถลงทุนผ่านการถือหุ้นในธุรกิจอื่นๆ ที่นอกเหนือจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยได้ โดยไม่ติดข้อจำกัดการลงทุนและข้อจำกัดของธุรกิจประกันภัยแบบดั้งเดิม
ซึ่งถือเป็นการเพิ่มความคล่องตัวและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัท เพื่อขยายธุรกิจไปยังธุรกิจการเงินอื่นๆ ทั้งในและนอกธุรกิจประกันภัย พร้อมเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว
โดยบริษัทเห็นถึงโอกาสและศักยภาพในการเติบโตที่จะสามารถขยายธุรกิจและต่อยอดการสร้างรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยการดำเนินกิจการตามทิศทางเชิงกลยุทธ์ที่เหมาะสมต่อสถานการณ์อุตสาหกรรมตลาดในปัจจุบัน จากการลงทุนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศที่จะก่อให้เกิดการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังมีมติเห็นชอบด้วยกับการเพิกถอนหุ้นของบริษัทออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเห็นควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทพิจารณาและอนุมัติการเพิกถอนหุ้น
เนื่องจากการเพิกถอนหุ้น เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามแผนการปรับโครงสร้างดังกล่าว โดยได้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2566 ในวันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม 2566 เพื่อพิจารณาและอนุมัติแผนการปรับโครงสร้างของบริษัทและเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
18 สิงหาคม 2566
ผู้ชม 1388 ครั้ง