BRC โชว์กึ๋น! "บิ๊กซี รีเทล" รายได้แสนล้าน รีเทิร์น!ตลาดหุ้น
BRC โชว์กึ๋น! "บิ๊กซี รีเทล" รายได้แสนล้าน รีเทิร์น!ตลาดหุ้น
ฺ BRC โชว์กึ๋น! "บิ๊กซี รีเทล" รายได้แสนล้าน รีเทิร์น!ตลาดหุ้น
กางแผนลงทุนปีละ 10,000 ล้านบาท-ปูพรมสาขา-รุกอาเซียน
คุณอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ "BRC" หรือ “บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น” เปิดเผยว่า BRC ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างหนังสือชี้ชวน (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) และอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต.
ทั้งนี้เพื่อกลับมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกครั้งหลังจากที่ได้ออกไปก่อนหน้านี้ด้วย Market Cap 212,000 ล้านบาท โดยเตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 3.729 ล้านหุ้น ให้กับนักลงทุนในประเทศและนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ
ทั้งนี้เพื่อระดมทุนมาใช้ในการขยายธุรกิจในประเทศและต่างประเทศในกลุ่มอาเซียน ชำระหนี้เงินกู้และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท โดยมีนโยบายจ่ายเงินปันผล 50% ของกำไรสุทธิ คาดวาจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ภายในปี 2566 นี้
สำหรับรายได้ของ BRC มาจาก 3 กลุ่มธุรกิจสำคัญได้แก่ ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ที่เป็นธุรกิจเข้าถึงรายย่อยที่สร้างรายได้สัดส่วนกว่า 89% ของรายได้รวม นอกจากนั้นยังมีธุรกิจค้าส่งมีสัดส่วนรายได้ที่ 9% และธุรกิจอื่นๆ มีสัดส่วนรายได้ที่ 2%
ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา BRC มีรายได้เกินระดับ 100,000 ล้านบาทมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 ที่ผ่านมามีรายได้อยู่ที่ 113,573 ล้านบาทหรือเติบโต 2.2% ในขณะที่ไตรมาสแรกปี 2566 มีรายได้เติบโต 2.8% หรือจำนวน 27,433 ล้านบาท
คุณอัศวิน กล่าวต่อไปว่า BRC วางแผนขยายเครือข่ายสาขาทางธุรกิจในประเทศระยะกลางเพิ่มขึ้นที่ระดับ 3,400-3,500 สาขา จากปัจจุบันมีเครือข่ายร้านค้าปลีกหลากหลายรูปแบบ (Multi-format) ประกอบด้วย บิ๊กซี ซูเปอร์ เซ็นเตอร์, บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า, บิ๊กซี เพลส, บิ๊กซี มาร์เก็ต, บิ๊กซี ฟู๊ดเพลส, บิ๊กซี ดีโป้, บิ๊กซี มินิ, บิ๊กซี ฟู๊ด เซอร์วิส
รวมถึงธุรกิจตลาด Open-Air อย่างตลาดทิพย์นิมิตร, ตลาดครอบครัว, ตลาดเดินเล่น ตลอดจนร้านค้าอื่นๆ ของ BRC เช่นร้านกาแฟวาวี, ร้านหนังสือเอเซียบุ๊คส และร้านขายยาเพรียว
อีกทั้งร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมภายใต้โมเดลร้านค้า “โดนใจ” ซึ่งเป็นรูปแบบธุรกิจที่ BRC มุ่งให้การสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย หรือร้านค้าโชห่วย เพื่อยกระดับสู่ร้านค้าปลีกสมัยใหม่
ผ่านการให้การสนับสนุนการพัฒนาระบบบริหารจัดการด้านต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเติบโตและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในท้องถิ่นของตนเอง
นอกจากนี้การที่ BRC ได้รับการสนับสนุนภายใต้เงื่อนไขบางประการจากกลุ่ม TCC ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินขนาดใหญ่ในทำเลที่มีศักยภาพจำนวนมากในประเทศไทย BRC อาจจะสามารถเข้าถึงที่ดินดังกล่าว
ทําให้ BRC อยู่ในสถานะที่มีโอกาสเติบโตได้โดยการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว รวมทั้งภายใต้ข้อตกลงในสัญญาให้สิทธิกับผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุมและสัญญาให้สิทธิกับ BJC บิ๊กซี รีเทล
มีสิทธิในการได้มาซึ่งกิจการ MM Mega Market (Vietnam) Company Limited และเครื่องหมายการค้า MM ที่ใช้ในการดำเนินกิจการร้านค้า MM Mega Market ในประเทศเวียดนาม ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขบางประการตามสัญญา
นอกจากนี้ BRC ได้พัฒนา Omnichannel Platform ที่มีรากฐานจากการวิเคราะห์และทำความเข้าใจฐานลูกค้าขนาดใหญ่ภายใต้โปรแกรมสิทธิพิเศษบิ๊กพอยต์ที่มีความสัมพันธ์มาอย่างยาวนานกว่า 18 ล้านราย เพื่อมอบประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้าอย่างครบวงจร
ผ่านช่องทางออนไลน์ไปยังช่องทางออฟไลน์ (Online to Offline) ได้อย่างไร้รอยต่อ โดยนำเสนอผ่านการทำการตลาดแบบรายบุคคลซึ่งตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะตัวของลูกค้า โดยอาศัยเครือข่ายร้านค้าที่กว้างขวางและแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ครบครัน
ไม่ว่าจะเป็น บิ๊กซี ออนไลน์ (www.bigc.co.th) แอปพลิเคชันบิ๊กซีพลัส (Big C PLUS) ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้งานประมาณถึง 3.5 ล้านรายต่อเดือน นอกจากนั้นยังมีร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลส เช่น Shopee, Lazada, Foodpanda, Grab Mart และอื่นๆ
ขณะเดียวกัน BRC ยังมุ่งมั่นเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงโลกและสังคมให้ดีขึ้น ตลอดจนดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน โดยมีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) เพื่อให้สามารถกำหนดทิศทางธุรกิจอย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพ
และวางเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนพื้นที่ดาดฟ้าของร้านค้า ศูนย์กระจายสินค้า และร่วมมือกับพันธมิตรในการนำรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในการขนส่งสินค้า
ตลอดจนตั้งเป้าว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ในอัตราร้อยละ 15 ในปี 2575 เมื่อเทียบกับปี 2564 และตั้งเป้าหมายระยะยาวเป็นองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2593
คุณดุษณี เมอร์ลิง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน "BRC" กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา BRC มีกำไรจากการดำเนินธุรกิจหรือ EBITDA ที่เติบโต โดยในปี 2565 มีจำนวน 11,511 ล้านบาทหรือเติบโต 19.2% ในขณะที่ไตรมาสแรกปี 2566 ที่ผ่านมามีจำนวน 2,992 ล้านบาทหรือเติบโต 9.8%
สำหรับแผนการลงทุนในปี 2566-2567 นั้นทาง BRC ได้วางงบประมาณการลงทุนไว้ปีละ 10,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในการขยายสาขาปีละ 10-15 สาขาและการรีโนเวทสาขาต่างๆ ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่เช่าเพิ่มขึ้นและสร้างรายได้ให้เติบโตได้กว่า 10% ต่อปี
รวมถึงการขยายการลงทุนในต่างประเทศจากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศที่ 10% ทั้งจาก ลาว กัมพูชา และเวียดนามและคาดว่่าจะมีสัดส่วนไปได้ถึง 40% ในช่วง 5-7 ปีหลังจากนี้
07 มิถุนายน 2566
ผู้ชม 230 ครั้ง