J ผลงานปี 65 ทุบสถิติ กำไรพุ่งแตะ 202 ล้านบาท  

   J ผลงานปี 65 ทุบสถิติ กำไรพุ่งแตะ 202 ล้านบาท

   ปั้นโมเดลธุรกิจศูนย์การค้าชุมชน-Senior Wellness 

   “เจเอเอส แอสเซ็ท หรือ J” ประกาศผลงานปี 65 กวาดกำไรไปกว่า 202 ล้านบาท รายได้ 434 ล้านบาท รับภาพรวมธุรกิจพัฒนาศูนย์การค้าชุมชนเติบโต

   ปัจจุบันมี 5 โครงการ และคาดเปิดเพิ่มอีก 2 โครงการในปีนี้ สนับสนุนพื้นที่เช่าเฉียด 100,000 ตารางเมตร และกระแสเงินสดที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้น
    พร้อมด้วยการผนึกกำลังกับเครือข่ายพันธมิตรของ JMART และ สุกี้ตี๋น้อย คาดเห็นสาขาแรกที่ JAS Amata ชลบุรี เร็วๆ นึ้ จับตาสตอรี่ธุรกิจใหม่ โครงการดูแลผู้สูงอายุ Senera Senior Wellness คาดเป็นดาวรุ่งรับเทรนด์อสังหาฯ เพื่อผู้สูงอายุที่กำลังมาแรง

   นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำปี 2565 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2565) กำไรเพิ่มขึ้นทุบสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 5 ปี รับภาพรวมอุตสาหกรรมค้าปลีกและเศรษฐกิจฟื้น

   ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 202.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.3% จากงวดปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 161.4 ล้านบาท เป็นผลจากการที่บริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ The JAS Green Village คู้บอน ในช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา

   ทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากพื้นที่เช่าได้เต็มปี รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น และการปรับปรุงศูนย์การค้าและพื้นที่เช่าให้มีอัตราการเช่าที่ดีขึ้น

   ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์เศรษฐกิจ และสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่อนคลายลง ส่งผลให้กำลังซื้อกลับมาคึกคัก โดยบริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 556.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.4% จากงวดปีก่อนที่มีรายได้ 433.5 ล้านบาท

   ในปี 2566 มั่นใจว่า J จะวิ่งได้เร็วกว่าเดิมและคล่องตัว ด้วยโครงสร้างธุรกิจที่ชัดเจน โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในโครงการพัฒนาศูนย์การค้าชุมชนของบริษัท ณ สิ้นปี 2565 บริษัทมีจำนวน 5 โครงการ

   ประกอบด้วย The Jas วังหิน, The Jas รามอินทรา, Jas Urban ศรีนครินทร์, Jas Village อมตะ ชลบุรี และ Jas Green Village คู้บอน โดยคาดการณ์ปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 2 โครงการ ที่ Jas Green Village บางบัวทอง และ Jas Green Village รามคำแหง

   สนับสนุนพื้นที่เช่าของบริษัทเพิ่มขึ้นเฉียด 100,000 ตารางเมตร ภายในปี 2566 นี้ สร้างกระแสเงินสดเข้ามาเพิ่มขึ้น จากก่อนหน้านี้บริษัทเปิดโครงการใหม่เพียงปีละ 1 โครงการ

   แสดงถึงความพร้อมในเรื่องการลงทุน และการบริหารจัดการ บนทำเลที่มีศักยภาพ เป็นป่าล้อมเมืองที่จะตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ รวมถึง การต่อยอดร่วมกับพันธมิตร สร้างวาไรตี้ให้ศูนย์การค้าชุมชนให้มีความครบวงจร และโดดเด่นยิ่งขึ้น 

   นอกจากนี้ภายหลังจากที่บริษัทแม่ JMART ได้เข้าลงทุนใน สุกี้ ตี๋น้อย ก็พร้อมที่จะรวมกันเป็นพันธมิตรในการขยายศูนย์การค้าออกไปในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ คาดจะได้เห็นสาขาแรก สุกี้ตี๋น้อย ที่ JAS Amata  ชลบุรี เร็วๆ นึ้  

   สำหรับภาพรวมการขยายธุรกิจด้านสุขภาพ และการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ของโครงสร้างประชากรไทยที่จะเป็นสังคมของผู้สูงอายุมากขึ้น

   บริษัทได้เปิดโครงการบ้านพักผู้สูงอายุ ภายใต้แบรนด์ “Senera Senior Wellness” เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา และมั่นใจว่าจะเข้ามาเสริมฐานรายได้ของบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น