สถิติ

71335591

"มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-ASIA" เดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ  

   "มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-ASIA" เดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

   ชูศักยภาพLifestyle Mobility Ecosystem สร้างระบบนิเวศธุรกิจครบวงจร

              

   "มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-ASIA" เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) ระดมทุนเสริมความแข็งแกร่ง ชูศักยภาพผู้นำธุรกิจที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์แห่งการเดินทาง (Lifestyle Mobility) อย่างครบวงจร

   และการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) ให้ครอบคลุมทุกมิติ พร้อมมุ่งขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรม เพื่อสร้างความแตกต่างและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างหลากหลาย 

   ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-ASIA ดำเนินธุรกิจมากว่า 2 ทศวรรษ โดยสร้างความแข็งแกร่งด้วยการพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) ภายใต้ชื่อ “MGC-ASIA Ecosystem”

   ผ่านการขยายผลิตภัณฑ์ บริการและฐานลูกค้า เพื่อตอกย้ำศักยภาพการเป็นผู้นำทางธุรกิจที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์แห่งการเดินทางอย่างครบวงจร (Lifestyle Mobility) โดยปัจจุบัน มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-ASIA มีผลิตภัณฑ์และบริการอย่างครอบคลุม

   ทั้งการจำหน่ายรถยนต์ บิ๊กไบค์ เรือยอชท์ เรือแม่น้ำ และรถยนต์มือสอง พร้อมการรับประกัน บริการจัดหาลูกค้าสำหรับธุรกิจให้เช่าเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว และตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารสายการบินชั้นนำ บริการหลังการขายและซ่อมบำรุง บริการเช่ารถยนต์ทั้งระยะสั้นและระยะยาวพร้อมพนักงานขับ

   รวมถึงมีธุรกิจเสริมสร้างรายได้ระยะยาวและบริการอื่นๆ ได้แก่ บริการทางการเงินสำหรับยานยนต์และมารีน นายหน้าประกันภัย และบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล เป็นต้น

   นอกจากนี้การร่วมมือกับพันธมิตร ซึ่งเป็นผู้ผลิตและให้บริการด้านยานยนต์ระดับโลกมาอย่างต่อเนื่อง ช่วยเสริมสร้างให้เกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและครบวงจรแก่ลูกค้า รวมถึงสร้างความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น

   ทั้งนี้ทีมผู้บริหารและพนักงานได้มุ่งสร้างความเป็นเลิศในการดำเนินงาน จากความเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ในการสร้างประสบการณ์ที่เต็มเปี่ยมในการเดินทางอย่างครบวงจร

   ตลอดจนมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ด้วยการสร้างค่านิยมในองค์กร ให้มีส่วนร่วมและตระหนักถึงชุมชน รวมถึงพื้นฐานเพื่อการเติบโตสู่ผลกำไรอย่างยั่งยืน

   ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจในรูปแบบ Holding Company โดยแบ่งธุรกิจหลักออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

   1) กลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ (Mobility Retail Business) ซึ่งกลุ่มบริษัทเป็นผู้นำเข้า และ/หรือผู้จำหน่าย รถยนต์ บิ๊กไบค์ เรือยอชท์ และเรือแม่น้ำ ในลักษณะธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ (Mobility Retail Business) รวมถึงให้บริการจัดหาลูกค้าสำหรับธุรกิจให้เช่าเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว

   โดยแบรนด์ยานยนต์ชั้นนำระดับโลก ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ เป็นผู้นำเข้า และ/หรือผู้จำหน่าย ได้แก่ รถยนต์ Rolls-Royce, BMW, MINI, Honda และบิ๊กไบค์ BMW Motorrad, Harley-Davidson รวมถึงเรือยอชท์สัญชาติอิตาเลียน Azimut เรือแม่น้ำสัญชาติอเมริกัน Chris-Craft

   และบริการจำหน่ายรถยนต์มือสอง รวมถึงบริการจัดหาลูกค้าสำหรับธุรกิจให้เช่าเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว VistaJet เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง นอกจากนี้กลุ่มบริษัทยังเป็นผู้จำหน่ายยานยนต์ BMW, MINI และ BMW Motorrad อันดับ 1 ของประเทศไทย

   2) กลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขาย และให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ โดยมีศูนย์บริการครอบคลุม ช่วยสนับสนุนธุรกิจหลักและสร้างรายได้ รวมถึงผลกำไรแก่กลุ่มบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค

   โดยกลุ่มบริษัทถือเป็นผู้นำธุรกิจการให้บริการหลังการขาย จำหน่ายอะไหล่ยานยนต์ อุปกรณ์ตกแต่ง และสินค้าไลฟ์สไตล์ พร้อมบุคลากรที่ผ่านการอบรมด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงเครื่องมืออันทันสมัย

   เพื่อรองรับการให้บริการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในปัจจุบันและอนาคต  และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มศักยภาพ รวมถึงสร้างความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น

   3) กลุ่มธุรกิจให้บริการเช่ารถยนต์และพนักงานขับ โดยธุรกิจให้บริการเช่ารถยนต์ระยะยาว เน้นการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าบริษัทขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีระยะเวลาการเช่า 2–5 ปี พร้อมให้บริการครบวงจรตลอดระยะเวลาของสัญญาเช่า

   บริการเช่ารถยนต์ระยะสั้นภายใต้แบรนด์ระดับโลก "Sixt Rent a Car" ที่มีศูนย์บริการมากกว่า 4,500 สาขา ในกว่า 105 ประเทศทั่วโลก โดยมีเครือข่ายกับบริษัทชั้นนำของโลกเป็นพันธมิตร

   ทางบริษัทได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐ ในการบริหารจัดการรถยนต์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้นำระดับประเทศ ในการประชุม ASEAN SUMMIT เมื่อปี 2562 รวมถึงงานประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก  ปี 2565 (APEC 2022) ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ

   นอกจากนี้กลุ่มบริษัทได้ขยายบริการที่เกี่ยวเนื่องเพื่อสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจอย่างครบวงจร ผ่านสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องแก่ลูกค้าและองค์กร โดยมีกลุ่มธุรกิจให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร นายหน้าประกันภัย

   บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และดิจิทัลแพลตฟอร์ม รวมถึงบริการทำความสะอาดและเคลือบสีรถยนต์ ซึ่งดำเนินงานผ่านบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วม

   ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มบริษัทวางเป้าหมายการขยายศักยภาพทางธุรกิจ ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวเนื่อง

   เพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมวางแผนต่อยอดและขยายธุรกิจมารีนในภูมิภาค เพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายใหม่ ผ่านทุกแพลทฟอร์มทางธุรกิจ

   การขยายสู่บริการทางด้านการเงิน การเช่าซื้อ ลีสซิ่ง และสินเชื่อรีไฟแนนซ์สำหรับยานยนต์หรูทุกประเภท ผ่านบริษัท อัลฟ่า เอกซ์ จำกัด (Alpha X) ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับ บริษัท เอสซีบี เอ็กซ์ จำกัด (มหาชน) และบริการนายหน้าประกันภัย ผ่านบริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด และอื่นๆ

“   กลุ่มบริษัทได้วางแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเตรียมรองรับการเติบโตทั้งในประเทศและภูมิภาค เพื่อสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจครบวงจร รวมถึงสร้างความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ

   นอกจากนี้ MGC-ASIA ให้ความสำคัญกับการยกระดับความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคม ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจแบบธรรมาภิบาล ตลอดจนมุ่งเน้นนโยบายรักษ์โลก

   ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมีเป้าหมายขับเคลื่อนสู่องค์กรคาร์บอนต่ำเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อมและการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาวดร.สัณหวุฒิ กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

   ทั้งนี้ล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

   เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก จำนวนไม่เกิน 336,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 30 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้

   โดยมีแผนนำเงินไปลงทุนในบริษัท อัลฟ่า เอกซ์ จำกัด และบริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด รวมถึงโอกาสใหม่ทางธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่กลุ่มบริษัทได้ในระยะยาว นอกเหนือจากการนำไปชำระเงินกู้จากสถาบันการเงิน และเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในการสร้างการเติบโตในการดำเนินธุรกิจ

11 กุมภาพันธ์ 2566

ผู้ชม 392 ครั้ง

Engine by shopup.com