"บล.หยวนต้า" กางแผนธุรกิจ 2 ปี เข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ฯ
"บล.หยวนต้า" กางแผนธุรกิจ 2 ปี เข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ฯ
"บล.หยวนต้า" กางแผนธุรกิจ 2 ปี เข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ฯ
ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน-เล็งพันธมิตรประกันชีวิต-รุก!Wealth
คุณบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเปิดดำเนินธุรกิจมา 5 ปี ด้วยทุนจดทะเบียนสูงถึง 4,500 ล้านบาท
ซึ่งนับว่าเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีทุนจดทะเบียนสูงสุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยในปี 2564 ที่ผ่านมาแม้จะเจอวิกฤติโควิด-19 แต่ก็สามารถทำกำไรได้กว่า 1,000 ล้านบาท และในปี 2565 นี้วางเป้าหมายรักษาให้ได้ระดับเดิม
โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานกว่า 400 ล้านบาทเพื่อรองรับการให้บริการลงทุนแก่ลูกค้าอย่างครบวงจร โดยมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจหลัก (Core Business) ของบริษัท
คือ Retail Business ที่เป็นสัดส่วนกว่า 90% ส่วนอีก 10% เป็นนักลงทุนสถาบัน ซึ่งสัดส่วน 50% เป็นรายได้จากโบรกเกอร์และอีก 50% มาจากด้านอื่นๆ
ทั้งนี้เพราะในปัจจุบันและอนาคต รูปแบบการลงทุนหรือการให้บริการด้านการลงทุนได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยผู้ให้บริการจะมุ่งเน้นที่ความมั่งคั่งของลูกค้าเป็นหลัก
ขณะเดียวกันการเกิดขึ้นของ Digital Asset ก็จะเป็นสิ่งที่ทวีความสำคัญมากขึ้นในโลกการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ก็จะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการเพื่อเข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง
ทางบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้าจึงต้องการนำเสนอบริการนอกเหนือจากการเป็นตัวกลางในการซื้อขายหุ้นโดยการให้คำแนะนำที่ถูกต้องแม่นยำ แล้วยังเน้นการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่ความหลากหลายมากขึ้น
เพื่อตอบโจทย์การบริหารความมั่งคั่งสำหรับลูกค้า หรือ Wealth Management ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพสัดสวน 10% ของฐานลูกค้าทั้งหมด ทั้งนี้บริษัทยังได้ศึกษาการเป็นพันธมิตรกับบริษัทประกันชีวิตทั้งในรูปแบบร่วมทุนและ MOUทางธุรกิจเพื่อนำเสนอสินค้าประกันชีวิตแก่กลุ่ม Wealth
"ในอนาคตอันใกล้เชื่อว่า โลกจะแคบลง การ Connect กับ Regional หรือ Global จะมีความสำคัญมากขึ้น Cross border จะมีให้เห็นมากขึ้น ทั้งนี้การ Cross border อาจมาในรูปแบบ Traditional แบบเดิมผ่าน การทำ Dual listed, DR, Structure note
ซึ่งมั่นใจว่าการที่มี Network ของบริษัทในเครือหยวนต้าต่างประเทศจะทำให้เชื่อมต่อ และนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เชื่อมโยงกับตลาดต่างประเทศ เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับนักลงทุนของไทยมากขึ้น
ในด้านการเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วของ Digital Asset ตามเทคโนโลยี Blockchain อาทิ Digital Currency หรือ Digital Token นั้น บริษัทได้ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง
ภายใต้ความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่านการสนับสนุนในโครงการ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDX) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในอนาคตอันใกล้นี้" คุณบุญพร กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า
นอกจากนั้นบริษัทยังได้พัฒนาการวิเคราะห์เชิงปริมาณ เพื่อรองรับรูปแบบการวิเคราะห์วิจัยแนวใหม่ที่ใช้ Big Data และ AI (Artificial Intelligence) อีกทั้งยังได้พัฒนา Application “Yuanta NAVI” ซึ่งเป็นการรวมตัวช่วยในการลงทุนครบวงจรไว้ในที่เดียว ทำให้กลายเป็น Application หลักนักลงทุน
โดย Yuanta NAVI จะเปรียบเสมือนเลขาส่วนตัวของลูกค้าที่สามารถลงทุนหุ้นและกองทุนผ่าน Yuanta NAVI ได้ทันทีสามารถตั้ง Personalized Alert ได้ตามใจนักลงทุนซึ่งมี Features ให้เลือกอย่างละเอียดและหลากหลาย
รวมถึงกระบวนการ ฝาก ถอน โอน และบริการอื่นอีกมากมาย ที่สะดวกรวดเร็วและปลอดภัย โดยในอนาคตตั้งเป้าหมายให้ Yuanta NAVI เป็นแพทลฟอร์มอัจฉริยะที่ตอบโจทย์ Lifestyle การลงทุนของนักลงทุนทุกรูปแบบในทุกๆ วัน
ในด้านการบริหารลงทุนเพื่อลูกค้า ซี่งบริษัทหลักทรัพย์สามารถทำได้ใน 2 รูปแบบคือ Portfolio Advisory (PA) และ Program Trading (PT) นั้น ปัจจุบันบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า ให้บริการแก่ลูกค้าทั้งสองรูปแบบ
โดย PA จะถูกตั้งค่าขอบเขตการลงทุน และคำแนะนำโดยอิงจากข้อมูลฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ของบริษัท ส่วน PT ของบริษัทจะใช้ Quantitative Model
ซึ่งมีตั้งแต่การ Optimization ไปจนถึงการใช้ AI เป็นส่วนประกอบของโมเดล ซึ่งปัจจุบันบริษัทเงินทุนภายใต้การจัดการ (AUM) เกือบ 10,000 ล้านบาท และตั้งเป้าว่าภายใน 2-3 ปี AUM ของลูกค้ากลุ่มนี้จะเพิ่มเป็น 20,000-25,000 ล้านบาท
อีกทั้งปัจจุบันบริษัทเป็นตัวแทนขายหน่วยลงทุนของเกือบทุกบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมทุกแห่งในประเทศไทย โดยมีการจัดทำ Fund Rating ที่อาศัยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ตลอดจนมีผู้เชี่ยวชาญด้านกองทุนคอยให้คำแนะนำแก่ลูกค้าที่สนใจ
คุณบุญพร กล่าวต่อไปว่า สำหรับการดำเนินธุรกิจด้านวาณิชธนกิจนั้น บริษัทเป็นที่ปรึกษาในการระดมทุน และนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยปัจจุุบันบริษัทมีแผนในการระดมทุนและนำบริษัทเข้าจดทะเบียน (IPO) มากกว่า 5 บริษัท ในระยะเวลา 2 ปี มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทยังเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับการควบรวมและซื้อขายกิจการให้กับบริษัทไทยและบริษัทต่างประเทศที่ต้องการเข้ามาลงทุนในแถบ CLMV โดยได้รับความสนับสนุนเป็นอย่างดีจากบริษัทในเครือที่มีอยู่ในหลากหลายประเทศ
โดยปัจจุบันบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า เป็นที่ปรึกษาของบริษัทต่างๆ ที่ต้องการระดมทุนด้วยตราสารหนี้และเป็นผู้จัดจำหน่ายตราสารหนี้หลากหลายประเภท ตามแต่ความประสงค์การลงทุนของลูกค้า โดยในแต่ละปีมียอดการจำหน่ายตราสารหนี้ให้กับลูกค้ามากกว่า 10,000 ล้านบาท
ด้านตราสารอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ DW หมายเลข 19 ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากตราสารอนุพันธ์ของบริษัทมีการวางราคาที่เป็นธรรมสำหรับผู้ซื้อ และมีความรวดเร็วในระดับสูง
ในขณะที่แผนงานจากนี้บริษัทก็จะเพิ่มสัดส่วนลูกค้าสถาบันทั้งในไทยและต่างประเทศจากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 10% จากเดิมที่มีเพียง 1% โดยใช้เครือข่ายความแข็งแกร่งของบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า
"จากแผนงานและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรวมถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ครบวงจรทั้งหมดนี้ส่งผลให้สามารถทำกำไรได้ต่อเนื่อง แม้จะต้องเผชิญวิกฤติโควิด-19 และเศรษฐกิจก็ตาม
ดังนั้นก้าวต่อไปคื่อการไปสู่บริษัทมหาชนเพื่อนำพาบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ในอีก 2 ปีหรือปี 2567 ต่อไป" คุณบุญพร กล่าวสรุป
29 กรกฎาคม 2565
ผู้ชม 1341 ครั้ง