สถิติ

71434991

FSMART ยิ้มรับสัดส่วน "เต่าบิน" เพิ่มแตะ26.71%

   FSMART ยิ้มรับสัดส่วน "เต่าบิน" เพิ่มแตะ26.71%

   รับรู้กำไรพ.ค.65-คงเป้าหมายยอดใช้บริการโต10-15%

                 

   FSMART ลงทุนเพิ่มในฟอร์ท เวนดิ้ง เป็น 26.71% จาก 19.34% พร้อมรับรู้กำไรส่วนได้ส่วนเสียจากคาเฟ่อัตโนมัติ “เต่าบิน” ที่ครองกระแสต่อเนื่อง คาดกระบวนเสร็จสิ้นเดือนนี้ ผู้บริหารมั่นใจธุรกิจโตกระฉูด

   อีกทั้งสั่งเดินหน้าลุย 3 แพลตฟอร์ม ออฟไลน์และออนไลน์ กวาดฐานลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิมแน่น เผยสินเชื่อกระแสตอบรับดีต่อเนื่อง เตรียมดันโปรเจคผ่อนมือถือและเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่ม ยันคงเป้าหมายยอดใช้บริการโตปีนี้ 10-15% 

   นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) FSMART เปิดเผยว่า บริษัทจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจตู้เต่าบินผ่านบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด จากเดิม 19.34% เป็น 26.71%

   คิดเป็นเงินลงทุน 167 ล้านบาท โดยการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะสามารถสะท้อนกำไรส่วนได้ส่วนเสียจาก "เต่าบิน" สู่บริษัทอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งคาดว่ากระบวนการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจะเสร็จสิ้นได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2565 นี้

   โดยคาเฟอัตโนมัติ "เต่าบิน" ถือว่าประสบความสำเร็จทั้งด้านกระแสการตอบรับ และยอดขายเป็นอย่างมาก ด้วยการบริการเครื่องดื่มกว่า 170 เมนู ทั้งร้อน เย็น ปั่น ที่สำคัญยังพร้อมให้บริการ 24 ชั่วโมง รองรับด้วยระบบรับชำระทุกรูปแบบและศูนย์ดูแลบริการลูกค้าภายใต้ระบบจัดการของบุญเติม

   ซึ่งขณะนี้มีให้บริการแล้วกว่า 1,200 จุด พร้อมยอดขาย 100,000 แก้วต่อวัน จากแผนธุรกิจที่จะกระจายเพิ่มให้ได้ 20,000 จุดทั่วประเทศใน 3 ปี และจะสร้างยอดขาย 50 แก้วต่อตู้ต่อวัน หรือ 1 ล้านแก้วต่อวัน

   “การตอบรับของ คาเฟอัตโนมัติ "เต่าบิน" ที่ดีอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของธุรกิจที่พร้อมจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยการเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นจะช่วยผลักดันให้กลุ่มธุรกิจเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและการกระจายสินค้าของบริษัทเติบโตขึ้น

   เพิ่มเติมจากกลุ่มธุรกิจเติมเงิน-รับชำระเงินอัตโนมัติ และกลุ่มธุรกิจผู้ให้บริการทางการเงินและสินเชื่อครบวงจร ซึ่งจะสนับสนุนให้ผลประกอบการโดยรวมเพิ่มขึ้นตามลำดับ” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

   ทั้งนี้บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตโดยรวมปีนี้ไว้ที่ 10-15% ด้วยการบริหาร 3 แพลตฟอร์ม ที่ให้บริการทั้งในแบบออฟไลน์และออนไลน์ผ่านตู้บุญเติม เคาน์เตอร์แคชเชียร์ และแอปพลิเคชันบนมือถือ ในการขยายฐานลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิมกว่า 16 ล้านราย และกลุ่มลูกค้าองค์กร

   โดยกลุ่มธุรกิจเติมเงิน-รับชำระเงินอัตโนมัติ ยังคงมีผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ได้ขยายฐานลูกค้าใหม่ด้วยบริการแอปพลิเคชันบนมือถือสำหรับลูกค้าองค์กร ให้สามารถใช้บริการธุรกรรมทางการเงินแบบครบวงจร และซื้อสินค้า

   รวมถึงบริการต่างๆ จากคู่ค้าของบริษัท โดยช่องทางออนไลน์จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สำคัญที่จะผลักดันบริการให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า และยังสามารถนำเสนอสินค้าและบริการใหม่ รวมถึงการโฆษณาผ่านช่องทางนี้ได้ในอนาคตอีกด้วย

   ขณะที่กลุ่มธุรกิจผู้ให้บริการทางการเงินและสินเชื่อครบวงจร บริษัทยังคงมุ่งผลักดันตู้บุญเติมเป็นให้เป็นธนาคารชุมชนครบวงจรและผู้ให้บริการทางการเงินที่ครบวงจรทั้งบริการฝาก โอน ถอนเงินสด และให้บริการ e-KYC ผ่านตู้บุญเติม เคาน์เตอร์แคซเชียร์และแอปพลิเคชัน

   โดยยังเดินหน้าเพิ่มการเป็นตัวแทนธนาคารและกลุ่ม non-bank อย่างน้อย 2 ราย และขยายตู้บุญเติม Mini ATM ให้ได้ 10,000 จุดทั่วประเทศ ภายใน 3 ปี

   รวมถึงเร่งพัฒนาบริการให้รองรับได้ทั้งในประเทศและโอนเงินระหว่างประเทศ ซึ่งช่วยเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่และขยายขอบเขตบริการ ผลักดันให้จำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้น 15-20% ตามเป้าหมายที่วางไว้

   สำหรับบริการด้านสินเชื่อในวงเงิน 1,000 ล้านบาท ที่จะเป็นหนึ่งใน New S-curve ของบริษัทนั้น ได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน เนื่องจากเป็นสินเชื่อที่ตอบโจทย์ฐานลูกค้ามากกว่า 16 ล้านรายและลูกค้าองค์กรต่างๆ

   โดยเฉพาะกลุ่มมือถือและเครื่องใช้ไฟฟ้า ผ่านช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ที่สะดวกต่อการเข้าถึงของทุกกลุ่มลูกค้า ทั้งบริษัทได้เตรียมผลิตภัณฑ์ใหม่ด้านสินเชื่อที่พร้อมนำเสนอให้กับลูกค้าในทุกช่องทางเพื่อขยายฐานรายได้ของบริษัทให้มากขึ้นด้วย

   ส่วนผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 589.23 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 80.94  ล้านบาท โดยไตรมาสนี้บริษัทได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว และค่าครองชีพที่สูงขึ้น

   อีกทั้งไม่มีมาตรการรัฐช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย ทำให้กำลังซื้อของผู้ใช้บริการชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงรักษาฐานลูกค้าให้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจำนวนรายการบริการฝาก-โอนเงินในไตรมาสนี้ที่มีมากกว่า 1.6 ล้านครั้งต่อเดือน

   และบริการเติมเงิน E-Wallet ผ่านตู้บุญเติมมากกว่า 1,817 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความต้องการใช้บริการผ่านช่องทางบุญเติมอยู่จำนวนมาก ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆ จะมีแนวโน้มดีขึ้นต่อไป

16 พฤษภาคม 2565

ผู้ชม 490 ครั้ง

Engine by shopup.com