NRF ส่งบริษัทย่อยสหรัฐฯเข้าลงทุนTurtle Island Foods(“TIF”)
NRF ส่งบริษัทย่อยสหรัฐฯเข้าลงทุนTurtle Island Foods(“TIF”)
NRF ส่งบริษัทย่อยสหรัฐฯเข้าลงทุนTurtle Island Foods(“TIF”)
สู่Plant-based Food Top 5ของโลก-ระดมทุนตลาดหุ้นในสหรัฐฯ
"บมจ. เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์" หรือ NRF ผู้ผลิตและส่งออกอาหารและเครื่องปรุงรสชั้นนำ อนุมัติให้บริษัทย่อยในเครือ โนฟ ฟู้ดส์ ในสหรัฐอเมริกา
เข้าให้ความช่วยเหลือทางการเงินและลงทุนในบริษัท Turtle Island Foods, SPC (“TIF”) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืชรายใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ในสหรัฐอเมริกา ด้วยวงเงินกู้ยืมไม่เกิน 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
รับโอกาสเข้าลงทุน TIF ในอนาคต เปิดโอกาส NRF สู่การเป็นผู้ผลิตอาหารโปรตีนจากพืช Top 5 ของโลก พร้อมมีแผน นำบริษัทย่อยเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นชั้นนำในสหรัฐฯ
นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้บริษัทย่อยในเครือ โนฟ ฟู้ดส์ ที่จะจัดตั้งขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่ง NRF ถือหุ้น 100%
เข้าทำบันทึกข้อตกลงในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินและลงทุนในบริษัท Turtle Island Foods, SPC (“TIF”) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืชรายใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ในสหรัฐอเมริกา
เนื่องจากมองเห็นศักยภาพในการเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมอาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based) มีโรงงานการผลิต ช่องทางการจัดจำหน่ายและเป็นแบรนด์สินค้าที่มียอดขายติดอันดับต้นๆ
ในตลาดอุตสาหกรรมอาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based) ของประเทศสหรัฐอเมริกา และมีโอกาสในการเข้าลงทุน TIF ในอนาคต โดยเงินกู้ยืมดังกล่าว TIF จะนำไปใช้ในการชำระเงินกู้ยืมเดิมจากสถาบันการเงิน และเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท TIF
สำหรับรายละเอียดการทำธุรกรรมครั้งนี้บริษัทจะสนับสนุนเงินกู้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) แบบมีกำหนดระยะเวลาและมีหลักประกัน โดยมีวงเงินกู้ยืมไม่เกิน 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,187.2 ล้านบาท) ไม่รวมค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้
ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่าต้นทุนของแหล่งเงินทุนของบริษัท ตลอดระยะเวลาของสัญญากู้ยืม โดยเป็นดอกเบี้ยที่คงที่ในปีที่ 1 และเป็นดอกเบี้ยแบบลอยตัวตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไป
ทั้งนี้เงื่อนไขและระยะเวลากู้ยืมดังกล่าวจะมีอายุไม่เกิน 36 เดือนนับจากวันที่มีการให้เงินกู้ยืม (drawdown) ทั้งนี้ คาดว่าการทำธุรกรรมดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ของปี 2565
อย่างไรก็ตามการช่วยเหลือทางการเงินในครั้งนี้ บริษัทมีแผนการออกหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน โดยจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดและได้รับการอนุมัติจากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตามการเข้าทำรายการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่บริษัท TIF ทำให้บริษัทมีสิทธิ์ ในการแปลงสภาพจากเงินกู้ยืมเป็นเงินลงทุนในบริษัท TIF (หรือมีหลักการที่เทียบเท่ากับการแปลงสภาพ)
ทั้งนี้รายละเอียดและขั้นตอนการแปลงสภาพยังอยู่ในขั้นตอนปรึกษากับที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัทและผู้ขาย เพื่อให้สอดคล้องหลักกฎหมายในประเทศสหรัฐอเมริกา
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยศักยภาพของบริษัท TIF ในการเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายอาหารจากโปรตีนพืช (Plant-based) ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง (Own Brand) อาทิ แบรนด์ Tofurky และ Moocho
ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัท TIF ประกอบไปด้วย แฮม ไส้กรอก ไก่ และชีส เป็นต้น ซึ่งมียอดขายติดอันดับต้นๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีฐานการผลิตที่แข็งแกร่งอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงมีช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย
และนับเป็นผู้เล่นขนาดใหญ่ในตลาดค้าปลีกและซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ อาทิ Walmart และ Kroger เป็นต้น ตอกย้ำการบริหารงานแบบมืออาชีพ ภายใต้ทีมผู้บริหารของบริษัท TIF ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับอาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based) มากกว่า 10 ปี ทำให้มีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจสูง
การลงทุนในครั้งนี้ช่วยเพิ่มขีดความสามารถความเป็นผู้นำด้าน Plant-based Food ให้กับ NRF เปิดโอกาสให้ NRF ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตอาหารโปรตีนจากพืช Top 5 ของโลก เสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับทั้ง 2 บริษัท
ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางภูมิศาสตร์ของ NRF ที่มุ่งเน้นการขยายตลาดและฐานการผลิตไปยังภูมิภาคอื่นๆของโลก เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ารวมถึงเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาการขนส่ง
โดยการเข้าลงทุนในบริษัท TIF ในครั้งนี้ถือเป็น Strategic move ที่สำคัญของบริษัท ซึ่งส่งเสริมกลยุทธ์ของบริษัทที่จะนำบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำในสหรัฐอเมริกาในอนาคต
27 เมษายน 2565
ผู้ชม 1161 ครั้ง