สถิติ

74039144

ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ ปรับธุรกิจปี65 ปั้นรายได้ 12,000 ลบ.  

   ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ ปรับธุรกิจปี65 ปั้นรายได้ 12,000 ลบ. 

   ลงทุนขยายเครือข่ายทั่วไทย-โซลาร์รูฟท็อป-ส่งออกตปท.

  

   บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กลุ่มบริษัทพลังงานครบวงจร และผู้จัดจำหน่ายก๊าซแอลพีจีภายใต้แบรนด์เวิลด์แก๊ส ประกาศทิศทางธุรกิจปี 2565 ที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนผ่านสู่การเติบโตที่ยั่งยืน หรือ Transformation for Sustainable Growth

   เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจหลักอย่างก๊าซ LPG ควบคู่การลงทุนในธุรกิจใหม่ที่หลากหลายเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงและพัฒนาธุรกิจให้ยั่งยืนมุ่งเป็นทุกคำตอบด้านธุรกิจพลังงานในอนาคต ผ่าน 3 กลยุทธ์ ประกอบด้วย

   การยกระดับซัพพลายเชนเพื่อรองรับเทรนด์พลังงานในอนาคต ขยาย Ecosystem ด้วยการบุกเบิกบริการใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอย่างครบวงจร และพัฒนาโซลูชั่นด้านพลังงานสะอาดเพื่อความยั่งยืน

   พร้อมเผยผลประกอบการปี 2564 น่าพอใจด้วยรายได้รวมกว่า 11,540 ล้านบาท พร้อมสร้างผลกำไรต่อเนื่องโดยมีผลกำไร 88 ล้านบาทแม้ยังต้องเผชิญความท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ตลอดทั้งปี

   คุณชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2564 ที่ผ่านมา ยังคงสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้แก่การบรรลุเป้าหมายในการขยายจุดกระจายสินค้าเพื่อรายได้ที่เติบโตในระยะยาว

   เริ่มดำเนินการส่งออกก๊าซแอลพีจีสู่ตลาดเวียดนามในรูปแบบของธุรกิจเทรดดิ้งในปริมาณกว่า 18,500  ตัน สามารถขยายธุรกิจใหม่ๆ เช่น ธุรกิจซ่อมถัง รวมทั้งก้าวเข้าสู่ธุรกิจพลังงานสะอาดอย่างเต็มตัว

   โดยมีการเซ็นสัญญากับบริษัทคู่ค้าเพื่อดำเนินการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปด้วยกำลังการผลิตรวม 6 เมกะวัตต์แล้ว ตลอดจนการเริ่มใช้งานคลังเก็บและจ่ายก๊าซบางปะกง เฟส 3 เพื่อเพิ่มปริมาณสำรองก๊าซแอลพีจีในคลังให้เป็น 2% ของปริมาณการค้าประจำปี

   ตามนโยบายของกรมธุรกิจพลังงาน เพื่อเสริมความมั่นคงระบบพลังงานไทย ควบคู่กับการเสริมศักยภาพของซัพพลายเชนให้ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ

   “สำหรับก้าวต่อไปในปี 2565 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่การเติบโตที่ยั่งยืน หรือ Transformation for Sustainable Growth เพื่อพัฒนาแนวการดำเนินธุรกิจ และปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและรับมือกับความท้าทายต่างๆ อย่างทันท่วงที และต่อเนื่อง 

   ภายใต้หลักธรรมาภิบาล ควบคู่ไปกับการดูแล คู่ค้า พันธมิตร ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ให้พร้อมเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคงยั่งยืน โดยมีเป้าหมายภายใน 3 ปี ขยายเครือข่ายสาขาการบริการก๊าซ LPG ที่เป็นธุรกิจหลักให้ครบ 77 จังหวัด” นางสาวชมกมล กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

   การเดินหน้า Transformation for Sustainable Growth เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน จะดำเนินการโดยอาศัย 3 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย

  1. ยกระดับซัพพลายเชนสู่มิติใหม่ด้านพลังงาน (Supply chain enhancement)-มุ่งสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจก๊าซแอลพีจีภายใต้แบรนด์เวิลด์แก๊ส ซึ่งยังคงเป็นธุรกิจหลักในการสร้างรายได้ในปีนี้ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาด โดยสร้างความแข็งแกร่งของซัพพลายเชนตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ นำนวัตกรรมมาพัฒนาระบบการดำเนินงาน และขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขวางและครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น ทั้งในกลุ่ม B2B และ B2C ตลอดจนกิจกรรมสื่อสารการตลาดรูปแบบใหม่ๆ เช่น แคมเปญโฆษณาชุด “หมดภาระ ….. เมื่อสั่ง เวิลด์แก๊ส” การดำเนินธุรกิจโรงซ่อมถังอย่างเต็มรูปแบบ และเตรียมขยายสู่ธุรกิจการผลิตถังในอนาคต รวมทั้งการเปิดตัวแพล็ตฟอร์ม CRM เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์ รวมทั้งการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินการด้านต่าง ๆ เช่น Call Center แบบ one stop services โดยใช้ เทคโนโลยี IOT หรือ internet of things เข้ามาใช้งาน เป็นต้น
  2. ขยาย Ecosystem บุกเบิกบริการใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอย่างครบวงจร (Customer Ecosystem Expansion)-มุ่งสู่การเป็น Service & Energy Solution Provider นำประสบการณ์กว่า 42 ปีในธุรกิจพลังงานมาต่อยอดศักยภาพในการให้บริการและคำปรึกษาแก่ลูกค้า ควบคู่ไปกับการแสวงหาและนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้และให้บริการลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างยืดหยุ่นตามความต้องการเฉพาะ โดยกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม มุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพื่อช่วยประหยัดต้นทุน รวมทั้งนำเสนอพลังงานทางเลือกและโซลูชั่นอื่นๆ ที่เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจที่แตกต่าง  และสำหรับกลุ่มพาณิชยกรรม เช่นโรงแรม ร้านอาหาร จะร่วมเป็นพันธมิตรกับ Food Platform ต่าง ๆ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในแต่ละแพลตฟอร์ม
  3. พัฒนาโซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อให้เป็นทุกคำตอบของพลังงานสะอาดเพื่อความยั่งยืน (Green & Sustainable Energy solutions)- มุ่งเน้นสร้างการพัฒนาธุรกิจให้เกิดความยั่งยืน ด้วยการแสวงหาธุรกิจพลังงานใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างผลตอบแทนได้ในระยะยาว ขยายสัดส่วนของธุรกิจพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าการเซ็นสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า (PPA) จากโซลาร์รูฟท็อปและโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รวม 20 เมกะวัตต์ ในปี 2565 ศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและอยู่ในกระแสความสนใจในแวดวงธุรกิจพลังงาน

                           

   คุณนพวงศ์ โอมาธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงินและบริหารองค์กร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการในปี 2564 ที่ผ่านมา ด้วยยอดขายก๊าซแอลพีจีรวมกว่า 700,000 ตัน อัตราการเติบโตในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 20% ขณะที่กลุ่มลูกค้าก๊าซหุงต้มเพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งสูงกว่าอัตราตลาดโดยรวม

   และสามารถสร้างผลกำไรอย่างน่าพอใจถึง 88 ล้านบาท อันเป็นผลจากนโยบายควบคุมค่าใช้จ่ายและการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และบริหารการเงินและการลงทุนอย่างรอบคอบ โดยมีสัดส่วนรายได้จากการขายก๊าซ LPG ซึ่งเป็นธุรกิจหลักราว 98% และรายได้อื่นๆ ประมาณ 2%

   และสำหรับในปี 2565 นี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถยอดขายรวมได้ 765,000 ตัน โดยคาดว่าจะมียอดส่งออกไปยังต่างประเทศ 25,000 ตัน สามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 5%

   ส่วนงบลงทุนตั้งไว้ที่ 860 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ 500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการขยายเครือข่ายพันธมิตรแบบ B2B การขยายสาขากลุ่มครัวเรือนแบบ B2C และการขยายโครงการโซลาร์รูฟท็อปตามแผนงานที่วางไว้

   โดยเชื่อมั่นว่าด้วยความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ แผนการที่ชัดเจนในอนาคต และความเคร่งครัดด้านนโยบายการบริหารงาน บริหารเงินและบริหารความเสี่ยงของบริษัทในปัจจุบัน

   ภายใต้แนวคิด “Transformation for sustainable growth” บริษัทจะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน

19 มีนาคม 2565

ผู้ชม 1080 ครั้ง

Engine by shopup.com