SCAP อวดกำไรปี 64 พุ่งเกิน 300 ล้านบาท
SCAP อวดกำไรปี 64 พุ่งเกิน 300 ล้านบาท
SCAP อวดกำไรปี 64 พุ่งเกิน 300 ล้านบาท
ชูลิสซิ่งจยย.ใหม่-ปีเสือแตะ10,000ลบ.เข้าเทรด
SCAP หรือ ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล บริษัทย่อยของ SAWAD ตอกย้ำโตก้าวกระโดดปี 64 โชว์กำไรสุทธิ 324.92 ลบ. อวดผลงานสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์และสินเชื่อส่วนบุคคลโตสวนกระแส
ด้านผู้บริหารใหญ่ "วิชิต พยุหนาวีชัย" ชี้ฝ่าคลื่นลมปี 64 ดันผลงานเติบโตเกินคาด พร้อมเดินหน้าลุยปี 65 ปีทองแห่งความสำเร็จ ตอกย้ำเป้าพอร์ตสินเชื่อใหม่ทั้งปีโตมากกว่า 60% พร้อมตบเท้าเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์อย่างสง่างาม
คุณวิชิต พยุหนาวีชัย กรรมการผู้จัดการ บจก. ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล หรือ SCAP (เอสแคป) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำปี 2564 บริษัทสามารถปล่อยสินเชื่อได้สูงเกินเป้าหมายอยู่ที่ 5,902.76 ล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าที่ระดับ 5,000 ล้านบาท
ส่งผลให้รายได้ทั้งปีอยู่ที่ 1,218.05 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 324.92 ล้านบาท โดยการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิมาจากธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่เป็นหลักและสินเชื่อส่วนบุคคลมีสัดส่วนรองลงมาตามลำดับ
ทั้งนี้ตลอดปี 2564 ปัญหาวิกฤติโควิด 19 แม้จะส่งผลกระทบต่อบริษัท แต่เนื่องจากการบริหารจัดการที่ดีและมีการส่งสัญญาณเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง
โดยเฉพาะกำลังซื้อในพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีความต้องการรถจักรยานยนต์ใหม่ในระดับสูง จึงเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดการเติบโตสวนกระแสในช่วงปีที่ผ่านมา
“ผมรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากในการบริหารงานปี 64 ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าค่อนข้างท้าทาย เนื่องจากมีสถานการณ์ที่ทุกบริษัทต้องพบเจอคือโควิด อีกด้านคือความเปลี่ยนแปลงในธุรกิจนอนแบงก์ที่มีหลายปัจจัยเข้ามาทำให้เราต้องปรับตัวอยู่สม่ำเสมอ
อีกทั้งการตั้งเป้าหมายที่สูงขึ้นเรื่อยๆที่ต้องทำให้ถึงเป้าให้ได้ แต่ท้ายที่สุดผลการดำเนินงานบริษัทก็ได้ชี้วัดถึงความพยายามในช่วงที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี
สำหรับปี 65 บริษัทยังคงให้ความสำคัญด้านเทคโนโลยีในการบริหารจัดการและให้บริการเป็นหลัก เพราะจะทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว แม่นยำ ในการให้บริการมากขึ้น ตอบรับกับเป้าหมายบริษัทที่พร้อมเป็น Tech Leasing และการเติบโตของผลการดำเนินงานในปีนี้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้” นายวิชิต กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า
สำหรับเป้าหมายของบริษัทในปี 2565 บริษัทมั่นใจว่าพอร์ตสินเชื่อรายย่อยใหม่ตลอดทั้งปีจะเติบโตมากกว่า 60% หรือเติบโตถึง 10,000 ล้านบาท โดยปัจจัยหนุนมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงปีก่อน
แต่เบื้องต้นยังคงต้องติดตามปัจจัยภายนอกอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในประเทศด้วย ส่วนผลงานที่ดีต่อเนื่องจากปี 2564 ส่งต่อถึงปี 2565 จะตอกย้ำการเติบโตที่โดดเด่นสนับสนุนการก้าวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยความคืบหน้าล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ตลาดทุนแล้ว
14 มีนาคม 2565
ผู้ชม 472 ครั้ง