ยู ซิตี้ โชว์ปี 64 พลิกทำกำไรสุทธิ92ลบ.
ยู ซิตี้ โชว์ปี 64 พลิกทำกำไรสุทธิ92ลบ.
ยู ซิตี้ โชว์ปี 64 พลิกทำกำไรสุทธิ92ลบ.
ชี้กลยุทธ์ใหม่หลังปรับเปลี่ยนแผลงฤทธิ์!
บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) (ยู ซิตี้) พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 92 ล้านบาทในปี 2564 เทียบกับผลขาดทุนสุทธิ 6,614 ล้านบาทในปี 2563 ผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนี้
เป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการดำเนินงานอย่างทันท่วงที ตามทิศทางที่คณะกรรมการบริษัท และผู้ถือหุ้นได้อนุมัติเมื่อต้นปี 2564
ในช่วงที่ผ่านมา ยู ซิตี้ ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากบริษัทพึ่งพาธุรกิจโรงแรมเป็นหลัก รายได้ของบริษัทลดลงกว่าร้อยละ 90
และโรงแรมเกือบทั้งหมดจาก 73 แห่งต้องปิดให้บริการชั่วคราวเนื่องจากข้อจำกัดของรัฐบาล และการท่องเที่ยวที่หดตัวลง การฟื้นตัวของธุรกิจมีความไม่แน่นอน และไม่สามารถคาดการณ์ได้ เนื่องจากการเกิดขึ้นของโควิดสายพันธุ์ใหม่ตลอดเวลา และความไม่ชัดเจนของนโยบายภาครัฐ
แต่หลังจากที่ผู้ถือหุ้นตัดสินใจอนุมัติให้มีการขายธุรกิจโรงแรม และอสังหาริมทรัพย์อื่น และมีการเพิ่มทุนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน ยู ซิตี้ ก็กลับพลิกฟื้นมามีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ยู ซิตี้ ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อจำหน่ายโรงแรมในทวีปยุโรปเพิ่มเติม จนถึงปัจจุบัน บริษัทได้ขายทรัพย์สินไปแล้วกว่า 6,300 ล้านบาท และตั้งเป้าที่จะดำเนินการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เหลืออยู่อีกกว่า 26,000 ล้านบาทให้หมดในอีก 3 ปีข้างหน้า
ควบคู่ไปกับการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ที่เหลือ บริษัทได้เริ่มขยายธุรกิจสู่บริการทางการเงินด้วยการเข้าซื้อหุ้น บริษัท แอดวานซ์ ประกันชีวิต จํากัด (มหาชน) หรือ A LIFE
รวมถึงเข้าซื้อหุ้นสามัญใน บริษัท ซิงเกอร์ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER และบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ภายใต้กลยุทธ์ "3M" MOVE, MIX, MATCH ของกลุ่มบริษัทบีทีเอส เพื่อสนับสนุน และเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจ ต่อยอดธุรกิจทางการเงินเพื่อก้าวไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนต่อไป
นางสาวสรญา เสฐียรโกเศศ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน กล่าวว่า การพลิกฟื้นธุรกิจดำเนินไปได้ด้วยดี บริษัทมีผลประกอบการที่ดีขึ้นตามแผน ซึ่งคาดหวังว่าจะได้เห็นธุรกรรมต่างๆ ที่จะช่วยเร่งขยายธุรกิจบริการทางการเงินของบริษัทให้เพิ่มขึ้นได้ภายในปีนี้
ในปี 2564 ยู ซิตี้ มีรายได้รวม 6,572 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.3 จากปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากกำไรจากการลงทุนใน JMART ทั้งนี้ราคาหุ้นของ JMART และ SINGER มีการปรับตัวสูงขึ้นกว่าร้อยละ 64 และร้อยละ 32 ตามลำดับ
นับจากวันที่บริษัทตัดสินใจลงทุน ซึ่งสะท้อนถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มตามกลยุทธ์ MATCH ของกลุ่มบริษัทบีทีเอสซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ U-P ซึ่งเป็นหุ้นบุริมสิทธิของ ยู ซิตี้ ที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลก่อนหุ้นสามัญ มีราคาปิดที่ 0.16 บาท ต่อหุ้น ณ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565
16 กุมภาพันธ์ 2565
ผู้ชม 760 ครั้ง