สถิติ

71459993

"EE" เปิดอาณาจักรธุรกิจเกษตร"กัญชง"   

   "EE" เปิดอาณาจักรธุรกิจเกษตร"กัญชง" 

   พลิกโฉม!ปั้นรายได้ล้างขาดทุนภายใน 2 ปี

                  

   บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ EE เปิดตัวโรงเรือน Green House แคนนาบิซเวย์ วัลเล่ย์ ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขนาด 9,000 ตร.ม. ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 36 ไร่ ณ อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี

   โดยมี ผศ.ดร.พีระศักดิ์ ฉายประสาท จากมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นที่ปรึกษาการปลูก คณะนักวิเคราะห์ ผู้สื่อข่าว และนักลงทุน ให้เกียรติเข้าเยี่ยมชมฟาร์ม

   โดย นายวรศักดิ์ เกรียงโกมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด(มหาชน) หรือ EE พาคณะเข้าเยี่ยมชมทั่วพื้นที่เพาะปลูกต้นกัญชงจำนวน 25,000 ต้น (สำหรับรอบการปลูกแรกหลังได้รับใบอนุญาตเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2564) เปิดเผยว่า หลังจากที่ EE ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับปัจจุบันโดยขายทิ้งธุรกิจพลังงานและมาโฟกัสอุตสาหกรรมเกษตรที่ "กัญชง" 

   ด้วยการถือหุ้น 80% ใน บริษัท แคนนาบิซ เวย์ จำกัด ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 650 ล้านบาท และพร้อมที่จะเป็นพันธมิตรกับทุกบริษัท ซึ่งคาดว่าธุรกิจใหม่นี้จะสามารถสร้างรายได้และล้างขาดทุนสะสม EE ได้หมดภายใน 2 ปี 

   ในขณะที่สภาพคล่องทางการเงินของบริษัทยังมีอีกกว่า 800 ล้านบาท ที่พร้อมลงทุนในธุรกิจเกษตร "กัญชง" อย่างต่อเนื่อง หลังจากภาครัฐเปิดโอกาสให้ธุรกิจนี้ได้ปรับตัวอีก 4 ปีนับจากนี้เพื่อให้มีความแข็งแกร่งและแข่งขันกับตลาดโลกจากการที่ห้ามนำเข้าสาร CBD ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว 

   นายวรศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการ CW1 วางแผนการปลูกเป็น 2 ส่วนคือ การปลูกในโรงเรือน จำนวน 30,000 ต้น และ Outdoor จำนวน 20,000 ต้น เน้นการใช้นวัตกรรมการปลูกและสายพันธุ์ที่มีคุณภาพนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา

   ทำให้ผลผลิตที่ได้มีปริมาณสาร CBD สูงถึง 19%, 21% ทุกส่วนจากต้นกัญชงของเราจะสามารถจำหน่ายได้ทั้งหมดตั้งแต่ ช่อดอกกัญชง(แห้ง) ใบกัญชง(สด) ลำต้นและกิ่งก้าน(แห้ง) รวมถึงราก(สด)  

   ตั้งเป้าขายผลผลิตช่อดอกกัญชงแห้งที่มีระดับสาร CBD มากกว่า 10% จำนวนไม่น้อยกว่า 20,000 กิโลกรัมต่อปี สำหรับรอบการปลูกระยะแรกนี้มีกำหนดเก็บใบอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม 2565 เพื่อทยอยส่งมอบแก่ลูกค้าและจะตัดช่อดอกเพื่อจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม 2565 ฉะนั้นบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2565

   "นอกจากนั้น EE ยังได้รับเกียรติจากมหาวิทยาลัยนเรศวรและมหาวิทยาลัยแม่โจ้ มาเป็นที่ปรึกษาในการปลูก ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านการเกษตรกรรมแบบเฉพาะทาง

   จากความสำเร็จของ CW1 ที่เป็นโครงการนำร่องทำให้มองหาและศึกษาโครงการใหม่ๆ ตามแผนเข้าลงทุนเพิ่มเติมในโครงการกัญชงที่มีศักยภาพ เพื่อเร่งสร้างปริมาณ supply ให้ได้มากตามที่ตลาดหรือกลุ่มลูกค้าต้องการ เพื่อนำมาซึ่งรายได้ให้กับบริษัท EE อย่างเพิ่มพูนในแต่ละไตรมาส ทั้งนี้บริษัทมีเงินทุนที่เตรียมพร้อมไว้แล้วสำหรับการขยายโครงการ” นายวรศักดิ์ กล่าวย้ำ

  

   ด้าน "นางฟ้ากัญชา" หรือ คุณอุนารินทร์ กิจไพบูลทวี จากบริษัท แคนนาบิซ เวย์ จำกัด (CW) เปิดเผยว่า ต่างประเทศที่ปลดล็อกให้ "กัญชง-กัญชา" เป็นพืชเศรษฐกิจส่งผลให้มีมูลค่ากว่า 800,000 ล้านบาท

   ในขณะที่ประเทศไทยที่เพิ่งเริ่มต้นหลังปลดล็อกทางกฎหมายนั้นคาดว่ามูลค่าจะอยู่ที่ 15,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี และเป็น 100,000 ล้านบาทได้ในอนาคต เมื่อเข้าไปอยู่ในธุรกิจอาหารที่มีมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาทในปัจจุบัน และสามารถส่งออกได้ต่างประเทศได้ต่อไป

   ทั้งนี้เพราะไทยมีความได้เปรียบในเรื่องสภาพอากาศ ฉะนั้นสามารถที่จะวางแผนให้พืชเศรษฐกิจนี้ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางหรือ HUB ของ "กัญชง-กัญชา" ก็สามารถดำเนินการได้จริง

                   

   นอกจากนั้น คุณอุนารินทร์ ยังรับหน้าที่เป็นทูตแห่ง EE พาเยี่ยมชมฟาร์มแล้ว ยังได้จัดแสดงสินค้าตัวอย่างพร้อมเมนูอาหารหลากหลายให้ผู้เข้าเยี่ยมชมได้ชิมเป็นครั้งแรก

   อาทิ Craft Soda ซ่าสนุก, ซอสทำอาหาร, ก๋วยเตี๋ยว หรือสมุนไพรบรรเทาอาการปวด เป็นต้น โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจะถูกพัฒนาเป็นสินค้าเพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศอย่างจีน

   นอกจากนี้ทาง CW ยังเตรียมสร้างร้าน Café กัญชงต้นแบบ 100 สาขา และมีแผนเปิดขายแฟรนไชส์ 1,000 สาขาทั่วประเทศ หนุนเป็นรายได้ให้กับกลุ่มบริษัท EE อย่างครบวงจร 

   ทั้งนี้การเปิดเยี่ยมชมฟาร์มแคนนาบิซเวย์ วัลเล่ย์ ครั้งแรกนี้ได้รับความสนใจและประสบความสำเร็จอย่างมาก บริษัทมีแผนเปิดฟาร์มให้บุคคลที่สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ทุกฤดูกาล หวังสร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม รวมถึงเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชนได้อีกด้วย

   โดยในเดือนมีนาคม 2565 นี้เตรียมพัฒนาเป็นเส้นทางสัมมนาสายเขียว เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้ในการพัฒนาและต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ และในเดือนเมษายน 2565 ก็เตรียมเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสามารถมาชมดอก "กัญชง" บานในรูปแบบ Fun Farm Day  

   “ฟาร์มแคนนาบิซเวย์ วัลเล่ย์” อยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อเป็นทั้งแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ประจำ อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี ซึ่งภายในจะประกอบไปด้วย ศูนย์การเรียนรู้ “CBD Agro-Tech Center”, จุดให้บริการ Camping นอนพักค้างคืน, ร้านอาหาร-Café จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น" คุณอุนารินทร์ กล่าวสรุป

10 กุมภาพันธ์ 2565

ผู้ชม 645 ครั้ง

Engine by shopup.com