สถิติ

71468571

MTC เปิดวิสัยทัศน์ ปี 65 ก้าวสู่ธุรกิจ100,000ล้านบาท  

   MTC เปิดวิสัยทัศน์ ปี 65 ก้าวสู่ธุรกิจ100,000ล้านบาท

   ย้ำ!ผู้นำNon-Bank-ชี้!4ปียอดปล่อยกู้ทะลุ200,000ลบ.

               

   บิ๊กบอส MTC “ชูชาติ เพ็ชรอำไพ” เปิดวิสัยทัศน์ก้าวสู่ธุรกิจ 100,000 ล้านบาท ภายในปี 65 พร้อมลุยปล่อยกู้สินเชื่อทะเบียนรถ-นาโนไฟแนนซ์-สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อที่ดิน พร้อมโปรดักส์ใหม่สินเชื่อเงินผ่อนครบวงจร “ซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง”

   ตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งธุรกิจ Non-Bank ของเมืองไทย นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศมั่นใจถือหุ้นลงทุนยาว วางเป้าภายในปี 69 ธุรกิจโตติดปีก ยอดปล่อยกู้ทะลุ 200,000 ล้านบาท คุมเอ็นพีแอลไม่เกิน 2% ต่อปี

   นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการบริหาร เรื่องการวางแผนธุรกิจในปี 2565 โดยเริ่มจากภาพรวมย้อนหลังเมื่อ 8 ปี 

   ก่อนเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฯ จากยอดสินเชื่อคงค้าง จำนวน 7,447 ล้านบาท ปัจจุบัน 90,000 ล้านบาท , กำไร 544 ล้านบาท ปัจจุบันยอด (ประมาณการ) 5,000 ล้านบาท , จำนวนสาขา 506 สาขา ปัจจุบัน 5,800 สาขา , จำนวนพนักงาน 1,690 คน ปัจจุบัน 11,400  คน หรือคิดเป็นยอดเติบโตเฉลี่ย 1,000% ภายใน 8 ปี หรือเท่ากับเติบโต 125% ต่อปี

   จนปัจจุบันบริษัทได้เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจ Non-Bank โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาด  45%  ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทฯใช้เวลา 8 ปีจนก้าวข้ามมาเป็นผู้นำอันอับ 1 อย่างชัดเจนในอุตสาหกรรมนี้ 

   สำหรับความยั่งยืนขององค์กรดูได้จากผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก นอกจาก “กลุ่มเพ็ชรอำไพ” แล้ว ผู้ถือหุ้นใหญ่จะเป็นกองทุนทั้งต่างประเทศและกองทุนภายในประเทศที่ให้ความสนใจมาถือหุ้นของบริษัทเป็นจำนวนมาก

   โดยมีกองทุนต่างชาติมาถือหุ้นประมาณ 15%, กองทุนไทยถืออยู่ 10% ที่เหลือเป็นนักลงทุนรายย่อยประมาณ 8% แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของกองทุนทั้งไทยและต่างประเทศให้ความสนใจลงทุนในหุ้นของบริษัทเป็นจำนวนมาก ลงทุนเป็นระยะเวลานานและมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นตลอดทุกปี

   ทั้งนี้แผนการดำเนินงานในอนาคต นอกจากธุรกิจหลักของ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ที่เน้นเรื่องสินเชื่อทะเบียนรถ, สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ,สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อที่ดิน แล้ว

   ในปี 2565 บริษัทได้เร่งทำการตลาดเพิ่มอีก 2 ธุรกิจ คือ บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง  จำกัด ที่ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ ซึ่งมีแนวโน้มยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นตามลำดับ  

   โดยคาดหวังว่าในปี 2565 จะมียอดสินเชื่อประมาณ 6,000 ล้านบาท และบริษัท เมืองไทย เพย์ เลเทอร์ จำกัด ที่ให้บริการซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง กับกลุ่มลูกค้าเดิม และหาลูกค้าใหม่มาเพิ่มเติม 

   โดยการเสนอสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า ,คอมพิวเตอร์ , เครื่องใช้และของใช้ในบ้าน ตามนโยบาย ซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง ซึ่งทั้ง 2 บริษัท ถือหุ้นโดยเมืองไทย แคปปิตอล เกือบ 100%

   สำหรับแผนงานในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าเติบโตสู่ธุรกิจ 100,000 ล้านบาท โดยมีธุรกิจหลักคือ เมืองไทย แคปปิตอล และธุรกิจที่ตั้งขึ้นใหม่คือ เมืองไทย ลิสซิ่ง และเมืองไทย เพย์ เลเทอร์ เป็นธุรกิจที่จะเข้ามาสนับสนุนการทำธุรกิจในอนาคต

   โดยมีการวางแผนการทำตลาดทั้งลูกค้าเดิมที่มีประวัติการชำระหนี้ดีและการเข้าหาลูกค้าใหม่ที่มีความต้องการใช้บริการผ่านการดำเนินงานของสาขาที่มีบริการมากกว่า 5,800 สาขา กระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงการเปิดสาขาใหม่กว่า 600 สาขาต่อปี

   ประธานกรรมการบริหาร MTC กล่าวต่อไปว่า บริษัทวางแผนการเติบโตในอีก 4 ปี ข้างหน้าคือปี  2569 เพื่อก้าวสู่ธุรกิจปล่อยสินเชื่อได้ถึง 200,000 ล้านบาท

   ซึ่งการจะก้าวสู่เป้าหมายดังกล่าวนี้ บริษัทจะต้องเน้นในเรื่องบริษัทต้องเติบโต 20-25% ต่อปี ตลอด 4 ปี รวมทั้งควบคุมหนี้เสียไม่เกิน 2% และลดดอกเบี้ยต่ำ รวมทั้งเงื่อนไขในการบริการไม่เอาเปรียบลูกค้า

   และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน โดยให้พนักงานรับผิดชอบการปล่อยสินเชื่อให้มากขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของสาขา โดยการเปิดสาขา เน้นจุดที่มีชุมชน และมีลูกค้ามาใช้บริการจำนวนมากเพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้าและลดข้อร้องเรียน

   “แผนงานดังกล่าวจะเริ่มต้นในเดือนมกราคม 2565 และวัดผลงานทุกไตรมาส ซึ่งที่ประชุมผู้บริหารมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถก้าวสู่ธุรกิจ 100,000 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอนรวมทั้งสามารถดำรงความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งและรักษาการเติบโต 30% ได้อย่างแน่นอน” นายชูชาติ กล่าวสรุป

13 มกราคม 2565

ผู้ชม 586 ครั้ง

Engine by shopup.com