สถิติ

71517415

OCEAN-JP-นางฟ้ากัญชา รุกสารสกัดกัญชง-กัญชา

   OCEAN-JP-นางฟ้ากัญชา รุกสารสกัดกัญชง-กัญชา

   เดินหน้าธุรกิจขึ้นท็อป3-ปั้นกำไรล้างขาดทุนสะสมสิ้นปี

                         

   OCEAN ผนึกกำลังพันธมิตรในตลาด “JP-นางฟ้ากัญชา” คุมปัจจัยการผลิตกัญชง-กัญชา ตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้ครบจบที่เดียว

   พร้อมเดินเครื่องจักรผลิตสารสกัดป้อนออเดอร์ลูกค้าภายในไตรมาส 4/64 และคาดในปี 2565 จะโกยรายได้จากธุรกิจ สกัดสารกัญชง-กัญชาเพื่อสร้าง New S Curve ให้กับ OCEAN

   ประกอบกับจะศึกษาเพื่อลงทุนเพิ่ม ในการนำเข้าเครื่องจักรเพื่อรองรับกำลังการผลิตที่มากขึ้น ฟากผู้บริหาร “ธีร ชุติวราภรณ์” มั่นใจผลงานปีนี้ “เทิร์นอะราวด์” ตามแผน พร้อมกันนี้จ่อล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยง

   นายธีร ชุติวราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด (มหาชน) (OCEAN) เปิดเผย OCEAN NEW GROWTH TO SUSTAINABILITY ว่า บริษัทได้ผนึกกำลังร่วมกับ 2 พันธมิตรในตลาดกัญชง-กัญชา

   บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (JP) ในฐานะโรงงานผลิตยา , อาหารเสริม , เครื่องสำอาง , สมุนไพร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทวิตามินบำรุงร่างกาย รวมทั้งกาแฟเพื่อสุขภาพ

   ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาและอาหารเสริมกับองค์การคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า กว่า 2,000 ผลิตภัณฑ์

   และบริษัท แคนนาบิซ เวย์ จำกัด ผู้ออกแบบและพัฒนาระบบปลูกกัญชง-กัญชาอัจฉริยะ เพื่อป้อนวัตถุดิบให้กับบริษัท ทำให้ก้าวสู่ความเป็นผู้คุมปัจจัยการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร

   ทั้งนี้ปัจจุบันธุรกิจสารสกัดกัญชง-กัญชา มีมูลค่ารวมกว่า 100,000 ล้านบาทและเติบโตปีละ 20% คาดว่าในอีก 7 ปีหรือปี 2571 จะมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 400,000 ล้านบาท  

   “การจับมือร่วมกันของพันธมิตรทั้ง 3 ในครั้งนี้ จะนำไปสู่การพัฒนาสินค้าร่วมกันครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อป้อนให้กับกลุ่มลูกค้าในตลาดที่มีความต้องการเป็นจำนวนมาก

   และเป็นการการันตีได้ว่า มีวัตถุดิบที่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ขณะที่โรงงานของ JP มีคุณภาพ และมาตรฐาน ผ่านการรับรองของ อย. สามารถผลิตสินค้าได้หลากหลาย

   และลูกค้าไม่จำเป็นต้องทำงานด้านวิจัยและพัฒนาเพิ่ม และเครื่องจักรที่บริษัทนำเข้ามายังมีจุดเด่นที่แตกต่างจากตลาดทั่วไป โดยสามารถสกัดได้ในระดับ ISOLATE CBD WATER SOLUBLE ซึ่งสามารถผสมเครื่องดื่มได้ทันที ต่างจากคู่แข่งในตลาดที่ยังไม่มีใครสามารถทำได้” นายธีร กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

   ทั้งนี้ ในเบื้องต้น OCEAN ได้นำเข้าเครื่องจักรขนาดกำลังการผลิต 300 กก./เดือน ซึ่งสามารถแยกสาร CBD ได้ 4 รูปแบบ เริ่มตั้งแต่ FULL SPECTRUM , BROAD SPECTRUM , CBD ISOLATE และ WATER SOLUBLE CBD ISOLATE

   “เมื่อบริษัทได้รับใบอนุญาตแล้วก็จะสามารถเดินเครื่องผลิต เพื่อรองรับออเดอร์ลูกค้าได้ทันที และตามแผนของ OCEAN คาดว่าจะรับรู้รายได้จากธุรกิจสกัดสารกัญชงกัญชาในปีนี้ราว 15-20 ล้านบาท ก่อนขยับขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ในปี 2565

   ทั้งนี้บริษัทก็มีแผนงานที่จะลงทุนเพื่อนำเข้าเครื่องจักรเพื่อรองรับการผลิตที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้บริษัทฯมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด จาก New S Curve ธุรกิจสกัดสารกัญชง-กัญชา พร้อมก้าวสู่ท็อป 3 โดยเร็ว” นายธีร กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

   อยากจะบอกให้ลูกค้าได้เข้าใจว่าถ้ามาใช้บริการกับ OCEAN ในฐานะผู้คุมปัจจัยการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ ร่วมกับพันธมิตรอย่าง JP ที่ได้รับการรับรองจาก อย. ผลิตสินค้าได้หลากหลาย และได้นางฟ้ากัญชา เข้ามาเสริมทัพ

   ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างครบวงจร แบบ Total Solution เพียงแค่มาหาก็จะได้รับสินค้าที่ต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องไปวิจัยและพัฒนาเพิ่มเติม

   สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ OCEAN ในช่วงครึ่งปีแรกมีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน เนื่องจากโครงการคอนโดมิเนียมที่มีอยู่ทั้ง  IKON SUKHUMVIT 77  มูลค่ารวม 1,170 ล้านบาท

   โดยตั้งแต่เริ่มมีการโอนจนถึงปีสิ้นปี 2564 คาดว่าจะมียอดโอนคิดเป็น 78% และโครงการ IKON UDOMSUK มูลค่า 600 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 85% ซึ่งทั้งสองโครงการผลตอบรับดีกว่าที่คาดการณ์ไว้

   ทั้งนี้บริษัทฯมียอดขายรอโอน (Backlog) ประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้ในปี 2564-2565 ขณะเดียวกันในช่วงครึ่งหลังของปีนี้มีแผนจะเปิดโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ ย่านรามอินทรา

   โครงการ THE VALOR มูลค่าโครงการ 480 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน เพราะเป็นตลาดที่ยังมีกำลังซื้อที่เติบโตได้ต่อเนื่อง และมีความต้องการสูง

   เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ความต้องการบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 64 และเริ่มโอนในต้นปี 2565

   "มั่นใจว่าปี 2564 จะเป็นปีแห่งการเทิร์นอะราวด์ของ OCEAN โดยตั้งเป้าหมายรายสร้างกำไรได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ฟื้นตัวและกำลังซื้อเริ่มทยอยกลับมาแม้ว่าจะสถานการณ์โควิด-19 ยังกดดันอยู่ก็ตาม

   แต่ด้วยโครงการที่มีคุณภาพ ทำเลที่ตั้งเหมาะสม มีสภาพแวดล้อมที่ดี และการจัดระบบ Facilities ที่ตอบโจทย์และตรงกับความต้องการของลูกบ้านทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาดหมาย คาดว่าเมื่อรับรู้รายได้จะส่งผลให้ปี 2566 มีรายได้แตะ 1,000 ล้านบาท

   นอกจากนี้ได้ตั้งเป้าหมายที่จะล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ประมาณ 80 ล้านบาท ให้หมดภายในปีนี้ให้ได้ จากการมีธุุรกิจใหม่มาเสริมศักยภาพ จากแผนการลงทุนเพิ่มเติมและรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ในปี 2565 บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจใหม่ 40% และธุรกิจเดิม 60%" นายธีร กล่าวย้ำ

                                                             

   ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (JP) กล่าวว่า มั่นใจว่าความร่วมมือกับ OCEAN ในครั้งนี้ จะนำไปสู่การเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน

   โดยบริษัทมีความพร้อมให้บริการผลิตสินค้าตามความต้องการของลูกค้า ผลิตยา, อาหารเสริม, เครื่องสำอาง, สมุนไพร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทวิตามินบำรุงร่างกาย

   รวมทั้งกาแฟเพื่อสุขภาพ พร้อมขึ้นทะเบียนอาหารเสริมกับองค์การคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า โดย JP มีประสบการณ์กว่า 40 ปี ด้านการผลิตยาแผนปัจจุบันและอาหารเสริมได้รับมาตรฐาน GMP PIC/s และมาตรฐาน ISO 9001:2015

   ควบคุมโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญ. ซึ่งในปัจจุบันได้มีการให้บริการขึ้นทะเบียนตำรับยาและทะเบียนผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกับอย. รวมทั้งผลิตยา, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, ยาแผนโบราณและผลิตยาสมุนไพร ในรูปแบบต่างๆ

   ได้แก่ ตอกเม็ด, บรรจุแคปซูล, บรรจุแผงบริสเตอร์, บรรจุขวดตามความต้องการของลูกค้า โดยบริษัทมีโรงงานผลิตที่ถนนพระรามสาม และโรงงานในภาคเหนือ ตั้งอยู่ที่จังหวัดลำพูน มีผลิตภัณฑ์ที่จดทะเบียนมากว่า 2,000 ผลิตภัณฑ์

                              

ขณะที่นางสาวอุนารินทร์ กิจไพบูลทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคนนาบิซ เวย์ จำกัด (ในวงการต่างให้ฉายาว่า "นางฟ้ากัญชา") กล่าวว่า บริษัทได้ออกแบบและพัฒนาระบบปลูกกัญชงและกัญชาอัจฉริยะ Cannabis Smart Farm (CSF) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยนเรศวร

   ทำการติดตั้งระบบในพื้นที่ปลูกของบริษัทที่จัดตั้งเป็น “CBD Agro-Tech Center” บนเนื้อที่กว่า 36 ไร่ ด้วยระบบการควบคุมสภาพแวดล้อมที่ปรับให้เหมาะสมกับทุกสายพันธุ์ เพื่อรองรับการปลูกกัญชง-กัญชาคุณภาพได้มากกว่า 250,000 ต้นต่อปี

   และมีโครงการขยายพื้นที่การผลิตให้ครอบคลุมกว่า 1,000 ไร่ทั่วประเทศ มีเป้าหมายเพื่อให้ได้ผลผลิตต่อการลงทุนสูงที่สุด และได้กัญชง-กัญชาคุณภาพป้อนเข้าสู่ภาคธุรกิจในทุกภาคส่วน ทำให้ได้วัตถุดิบกัญชง-กัญชาคุณภาพสู่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมกลางน้ำและปลายน้ำ

14 กันยายน 2564

ผู้ชม 716 ครั้ง

Engine by shopup.com