สถิติ

66600383

PTG กำไร Q3/63 พุ่ง 98%

   PTG กำไร Q3/63 พุ่ง 98%

   ปรับEBITDAปี63โต10-15%

                   

   PTG ยิ้มกำไรQ3/63 โตกว่า 98% ประเมิน Q4 ขายน้ำมันโต 8-12% รักษามาร์เก็ตแชร์อันดับ 2 คงเป้าขยายสาขา 50-100 สาขา คาด EBITDA ทั้งปี 63 โตเพิ่ม 10-15%

   นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 513 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 255 ล้านบาท

   หรือคิดเป็น 98.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) 1,654 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 511 ล้านบาท หรือคิดเป็น 44.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันจากปีก่อน

   ทั้งนี้บริษัทมีรายได้จากการขายและการบริการอยู่ที่ 25,315 ล้านบาท ลดลง 3,170 ล้านบาท หรือคิดเป็นลดลง 11.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

   สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายและบริการในส่วนของธุรกิจน้ำมันที่ลดลง 11.7% จากราคาค้าปลีกน้ำมันหน้าสถานีบริการปรับตัวลดลง 19.5% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

   แต่บริษัทมีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเติบโตขึ้น 9.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่รายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil) เพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

   จากการเติบโตธุรกิจแก๊สแอลพีจี ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ Max Mart และธุรกิจอื่นๆ ที่กลับมาเติบโตหลังจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของ Covid–19 ในไตรมาสที่ 2

   โดยบริษัทมีสัดส่วนกำไรขั้นต้นจากธุรกิจน้ำมัน คิดเป็น 88.1% และธุรกิจ Non-Oil 11.9%  ซึ่งสามารถแบ่งกำไรขั้นต้นของธุรกิจ Non-Oil เป็นธุรกิจแก๊สแอลพีจี 4.7% ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 2.6% ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ Max Mart และธุรกิจอื่นๆ 4.6%

   โดยในไตรมาสนี้บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 1,895 ล้านบาท ลดลง 4.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการปรับปรุงการรายงานทางการเงินตามมาตรฐานบัญชีฉบับที่ 16 ซึ่งบริษัทต้องรับรู้ค่าเสื่อมราคาจากสิทธิในการใช้สินทรัพย์และดอกเบี้ยจ่ายจากหนี้สินตามสัญญาเช่าแทนการบันทึกค่าเช่าแบบเดิม

   “จากปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ มาจากการใช้น้ำมันโดยรวมเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ผ่านทุกช่องทางอยู่ที่ 13.9% เป็นอันดับ 2 ของประเทศ

   และจำหน่ายผ่านสถานีบริการของ PT ของ PTG คิดเป็น 95.9% ของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันทั้งหมด หรือเพิ่มขึ้น 11.2% จากช่วงเดียวกันของปี ที่แล้ว จากการขยายจำนวนสถานีบริการ และการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมัน โดยในไตรมาสนี้ บริษัทฯ ยังคงรักษามาร์เก็ตแชร์ผ่านสถานีบริการเป็นอันดับที่ 2 คิดเป็น 16.6%” นายพิทักษ์ กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า

   ทั้งนี้คาดว่าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันของ PTG ในไตรมาส 4 จะเติบโตอยู่ที่ 812% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว และคาดว่าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันทั้งปีเติบโตอยู่ที่ 610% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว

   โดยบริษัทยังคงเป้าขยายสาขาของสถานีบริการน้ำมันและแก๊สแอลพีจีที่ 50100 สาขา การขยายสาขาธุรกิจ Non-Oil 100 สาขา และปรับงบการลงทุนลงอยู่ที่ 2,5003,000 ล้านบาท จากเดิม 3,0003,500 ล้านบาท เนื่องจากนโยบายเข้มงวดในการลงทุน

   อย่างไรก็ตามจากการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมัน และการขยายธุรกิจ Non-Oil อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของธุรกิจการจำหน่ายแก๊สแอลพีจี ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจศูนย์บริการซ่อมบำรุงรักษารถยนต์ Autobacs ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ Palm Complex

   โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 40% ซึ่งคาดว่าจะได้รับในปีนี้ ประมาณ 240260 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ ปรับประมาณการ EBITDA ในปี 2563 อยู่ที่ 1015% จากปีที่แล้ว จากประมาณการการเติบโตเดิมที่ 610%

15 พฤศจิกายน 2563

ผู้ชม 1603 ครั้ง

Engine by shopup.com