LGTชี้ช่อง!ลงทุนหุ้นต่างประเทศสู้!โควิด-19
LGTชี้ช่อง!ลงทุนหุ้นต่างประเทศสู้!โควิด-19
LGTชี้ช่อง!ลงทุนหุ้นต่างประเทศสู้!โควิด-19
เปิดโมเดลไพรเวท100ลบ.-ปั้น!ผลตอบแทน
นายเอกภพ เมฆกำจาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ แอลจีที(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากได้มีการเปิดตัวไพรเวทแบงกิ้งในเอเชียโดยเฉพาะในประเทศไทยเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา ด้วยพอร์ตการลงทุนเริ่มต้นจำนวน 100 ล้านบาทโดยเป็นการนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า
และล่าสุดได้มีการเปิดตัวบริการใหม่คือการลงทุนกองทุนส่วนบุคคลด้วยพอร์ตการลงทุนเริ่มต้นจำนวนเท่ากัน โดยมีการลงทุนให้เลือก 17 แบบ โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นต่างประเทศและตราสารหนี้ต่างประเทศที่สัดส่วนเท่ากัน 50:50 สามารถสร้างผลตอบแทนจากพอร์ตของลูกค้าได้กว่า 8.5%
สำหรับแนวทางการลงทุนต่างประเทศในช่วงนี้แนะนำให้ลงทุนหุ้นในสหรัฐอเมริกา แม้ในช่วงนี้จะมีความผันผวนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ประกอบกับแนวโน้มของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีทิศทางอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
แต่ทั้งนี้หลังการเลือกตั้งคาดว่า ”โจ ไบเดน” จะสามารถชนะการเลือกตั้งและจะส่งผลให้ตลาดหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่หาเสียงไว้ ซึ่งก็จะทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 10% ได้ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า
ในขณะที่หุ้นยุโรปก็แนะนำให้ลงทุนที่แม้จะประสบกับวิกฤติโควิด-19 แต่จำนวนผู้เสียชีวิตก็มีจำนวนที่ลดน้อยลง รวมถึงแนะนำการลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นด้วย ส่วนหุ้นในเอเชียโดยเฉพาะในจีนที่แม้จะมีควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีทิศทางการเติบโตที่ดีก็ตามแต่ก็อาจจะถูกนำมาใช้ในเป็นเครื่องมือในทางการเมืองได้เช่นกัน
สำหรับกลุ่มธุรกิจที่แนะนำลงทุนได้แก่ หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีที่ยังคงมีทิศทางการเติบโตของกำไรที่ดีกว่า 10-15% หุ้นกลุ่มเมกะเทรนด์ที่มีผลกำไรเติบโตกว่า 48% ในช่วงที่ผ่านมา
และหุ้นกลุ่มสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับสังคมผู้สูงอายุเนื่องจากเป็นทิศทางของประชากรโลกในปัจจุบัน ในขณะที่หุ้นกลุ่มที่แนะนำให้ลดการลงทุนไปก่อนหน้านี้แล้วก็คือกลุ่มพลังงานเนื่องจากมีการเติบโตที่ติดลบ
ส่วนทิศทางเศรษฐกิจและหุ้นไทยนั้นในระยะสั้นยังคงได้รับผลกระทบจากเรื่องการท่องเที่ยวแต่ในระยะกลางหลาย ๆ ธุรกิจจากต่างประเทศมีการปรับฐานการผลิตจากจีนมาลงทุนในไทยและประเทศอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้นซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป
26 ตุลาคม 2563
ผู้ชม 587 ครั้ง