TIP กางแผน! 5 ปี ปั๊ม!เบี้ยกลุ่มสุขภาพแตะ 10,000 ลบ.    

   TIP กางแผน! 5 ปี ปั๊ม!เบี้ยกลุ่มสุขภาพแตะ 10,000 ลบ.

   รุก!บริการแพทย์ออนไลน์ตรวจโควิด-19ฟรี!100,000ราย

   ในยุคที่คนไทยต้องอยู่กับความวิตกกังวลกับไวรัสโควิด-19  "ทิพยประกันภัย" ผู้นำทางด้านดิจิทัลอินชัวรันส์ห่วงใยลูกค้า จึงแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “Unlock Thailand: Tele Doctor against COVID-19”

   นำนวัตกรรมพบแพทย์ออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน Doctor Anywhere ให้ลูกค้าสามารถปรึกษาแพทย์ ตรวจสอบการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ฟรี จำนวน 100,000 ราย

   สะดวกรวดเร็ว ลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ต้องเดินทางไปที่โรงพยาบาล และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ  ตอบโจทย์รูปแบบการดำเนินชีวิตแบบ New Normal สำหรับลูกค้าทิพยประกันภัย (ประกันภัยทุกประเภท)

   สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ขอใช้บริการ ผ่านทาง http://register.tipinsure.com/RegisterCovid19/doctor_anywhere และ Line Official Account : Dhipaya Insurance  ตั้งแต่วันที่ 1 กค.-30 กย.63

   ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ประชาชนที่จะต้องออกมาทำงานหรือภาระกิจภายนอกหรือแม้กระทั่งคนที่อยู่ในบ้านเองบางครั้งเมื่อมีการเจ็บป่วยก็จะเกิดความวิตกกังวลว่าจะติดเชื้อไวรัสโควิด-19  หากจะไปตรวจหาเชื้อจากสถานพยาบาลก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายสูง

   ซึ่ง ทิพยประกันภัย ผู้นำทางด้านดิจิทัลอินชัวรันส์ ได้เห็นถึงความสำคัญนี้ จึงได้เปิดตัวโครงการ “Unlock Thailand: Tele Doctor against COVID-19” ภายใต้แนวคิด Trust & Simple จับมือกับ Doctor Anywhere นำนวัตกรรมการขอคำปรึกษาหรือรับการรักษาจากแพทย์ออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน Doctor Anywhere 

   โดยไม่ต้องเดินทางไปที่โรงพยาบาล ใช้เทคโนโลยี “เทเลเมดิซีน” มาให้เป็นสิทธิพิเศษแทนความห่วงใยสำหรับลูกค้าของบริษัทฟรี! โดยไม่เสียค่าใช่จ่ายในการขอคำปรึกษาหรือรับการรักษาจากแพทย์

   สำหรับโควิด-19 โดยเฉพาะจำนวน 100,000 รายจากฐานลูกค้าที่บริษัทมีอยู่จำนวน 10 ล้านคน ซึ่งลูกค้าของทิพยประกันภัยสามารถเข้าไปลงทะเบียนรับสิทธิ์นี้ได้ 

   ผ่านทาง http://register.tipinsure.com/RegisterCovid19/doctor_anywhere และ Line Official Account : Dhipaya Insurance ภายในระยะเวลา 3 เดือนนี้ตั้งแต่วันที่ 1 กค.-30 กย.63  

   ทั้งนี้แอปพลิเคชัน Doctor Anywhere คือ แอปพลิเคชันในการให้คำปรึกษาหรือพบแพทย์ออนไลน์โดยจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา สามารถใช้งานได้ทั้งระบบ IOS และ Android ซึ่งแพทย์จะสามารถวินิจฉัยอาการในเบื้องต้น ตลอดจนแนะนำวิธีการรักษา

   หากต้องมีการรับยาก็สามารถเลือกได้ว่าต้องการหรือไม่ หากผู้รับบริการต้องการรับยาก็ยังส่งมอบให้ถึงบ้านภายใน 3 ชั่วโมง (สำหรับผู้ใช้งานบริการในเขตกรุงเทพ) อีกด้วย

   การนำแอปพลิเคชัน Doctor Anywhere มาใช้ในการให้บริการลูกค้านั้นนอกจากจะเป็นการมอบสิทธิพิเศษแทนความห่วงใยลูกค้าแล้วเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้ในยุคที่ทุกคนต้องปรับตัวสู่วิถี New Normal  แล้วยังช่วยลดความเสี่ยงและโอกาสในการติดเชื้อ ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง 

   นอกจากนี้ยังช่วยลดภาระในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งหากผู้รับบริการตรวจสอบพบการติดเชื้อได้เร็ว ก็จะสามารถรับการรักษาได้ทันท่วงที ลดการแพร่ระบาดไปสู่สังคมวงกว้างอีกด้วย

   ดร.สมพร กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันทิพยประกันภัยมีเบี้ยประกันภัยสุขภาพและประกันอุบัติเหตุเป็นอันดับ 1 ของประกันวินาศภัย ดังนั้นจึงให้ความสำคัญกับการทำตลาดดังกล่าวโดยมีนโยบายในการจัดตั้งแผนกทางธุรกิจสำหรับประกันภัยที่มีเบี้ยตั้งแต่ 5,000 ล้านบาทขึ้นไป

   ดังนั้นจึงจัดตั้งแผนกใหม่ขึ้นมาเพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจประกันภัยสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและประกันภัยการเตินทาง ซึ่งทั้งหมดมีเบี้ยประกันภัยรวมกันกว่า 6,000 ล้านบาท ฐานลูกค้ารวมกันกว่า 5-6 ล้านราย 

   พร้อมทั้งแผนงานในการเติบโตเบี้ยประกันภัยกลุ่มนี้เป็น 10,000 ล้านบาทภายใน 5 ปีนับจากปีนี้ ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าประกันสุขภาพจำนวน 500,000-600,000 ราย อัตราค่าสินไหมทดแทน(Loss Ratio)อยู่ที่ 70-80%

   นายลิม ไว มัน CEO ของ Doctor Anywhere กล่าวว่า แอปพลิเคชัน Doctor Anywhere ถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้รับบริการ และมีการรองรับความปลอดภัยของข้อมูลระดับสูง ภายใต้การรักษาความปลอดภัยทางสารสนเทศตามแนวทาง Cyber Security

   โดยเชื่อในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเปลี่ยนวิธีการเข้าถึงการดูแลสุขภาพของผู้ประชาชน และผสมผสานประสบการณ์ในการดูแลสุขภาพทางออนไลน์และออฟไลน์ได้อย่างราบรื่น

   Doctor Anywhere ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ทิพยประกันภัย ได้เล็งเห็นและความสำคัญของ Telemedicine และให้ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้าทิพยประกันภัย

   ทั้งนี้แอปพลิเคชันดังกล่าวสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย ไม่ซับซ้อน แถมยังช่วยบันทึกข้อมูลการรักษาระหว่างคนไข้กับแพทย์ผู้ให้บริการไว้ในระบบ ทำให้เมื่อมีการขอเข้ารับการรักษาในครั้งถัดไป แพทย์จะสามารถย้อนดูข้อมูลการรักษาต่างๆได้อีกด้วย