สถิติ

66700898

"ธนาคารออมสิน" รับลูก!นโยบายรัฐแก้!วิกฤติการเงิน    

หมวดหมู่: การเงิน

   "ธนาคารออมสิน" รับลูก!นโยบายรัฐแก้!วิกฤติการเงิน

   ปรับโครงสร้างหนี้ข้าราชการ-ดีเดย์!ลดดบ.บัตรเครดิต

         ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานให้แก่ธนาคารออมสิน

   โดยมี คณะกรรมการธนาคาร นำโดย นายพชร อนันตศิลป์ ประธานคณะกรรมการธนาคารออมสิน ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง ให้การต้อนรับและร่วมรับมอบนโยบายดังกล่าว ณ ห้องประชุมกำแพงเพชร ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา

  

   โดยรองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายธนาคารออมสินในเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มีเข้มแข็ง เพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชนทุกคน ตั้งแต่ประชาชนรายย่อย Startup ไปจนถึง SMEs ไปจนถึงระดับชุมชนสามารถเปิดโอกาสให้เข้าถึงแหล่งทุนในระบบและเกิดการจ้างงานผู้สูงอายุได้ได้ด้วย เนื่องจากธนาคารออมสินไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ โดยที่รายใหญ่ไม่จำเป็นต้องโฟกัสแต่อย่างใด 

   ซึ่งการจะปล่อยสินเชื่อให้เข้าถึงประชาชนทุกระดับได้นั้นธนาคารออมสินต้องมีระบบ Big Data ในการติดตามหนี้และปล่อยสินเชื่อได้ทันทีโดยไม่ต้องไปใช้บรรษัทค้ำประกันสินเชื่อแต่อย่างใด

   ทั้งนี้เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจเนื่องจากปัจจุบันการเงินฝืดเคืองจากความล่าช้าของงบประมาณรัฐบาล ดังนั้นการเงินและการให้สินเชื่อต้องกระจายเพื่อให้เกิดสภาพคล่องต่อไป

   รวมทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ข้าราชการ ซึ่งเป็นนโยบายที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้เร่งดำเนินการแก้ไข เพื่อลดภาระหนี้สินข้าราชการ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งธนาคารออมสินจะร่วมหารือกับกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อศึกษาแนวทางในการดำเนินตามนโยบายดังกล่าว

        นอกจากนี้ได้ให้คำแนะนำและสนับสนุนให้ธนาคารออมสินจัดตั้งสถาบันเพื่อการพัฒนากลุ่ม Startup อย่างเป็นรูปธรรมและเป็นโมเดลใหม่ของประเทศขึ้นมา โดยร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาต่างๆ ในทุกจังหวัดและทุกภาค

   เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจหลากหลายของเอสเอ็มอีเหล่านี้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นทางด้านเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวแต่อย่างใด ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายธนาคารเพื่อสังคมหรือ Social Development 

   อีกประเด็นคือการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนในชนบทที่ขาดแคลนเครื่องจักรในการประกอบอาชีพซึ่งนอกจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ที่ให้สินเชื่อด้านเครื่องมือและเครื่องจักรการเกษตรแล้ว ซึ่งในส่วนของธนาคารออมสินก็สามารถนำการเงินมาไฟแนนซ์เรื่องเครื่องจักรเพื่อให้ชุมชนไปพัฒนาอาชีพไและยกระดับมูลค่าเพิ่มสินค้าได้เช่นกัน

   ส่วนเรื่องบัตรเครดิตที่มีการใช้เต็มวงเงินและหลายใบเกินความจำเป็นโดยที่ธนาคารมีการคิดดอกเบี้ยเต็มตามกฎเกณฑ์นั้นเป็นเรื่องที่ต้องนำมาพิจารณาในการลดดอกเบี้ยลงมาไม่ใช่นำมาเพื่อให้ฐานะธนาคารดีขึ้น

   ทางด้านรมว.คลัง กล่าวว่า ด้วยศักยภาพและฐานะการเงินของธนาคารออมสินสามารถให้เงินทุนในรูปแบบของ Venture Capital ให้กับผู้ขอสินเชื่อกับเอสเอ็มอีหรือวิสาหกิจชุมชนที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบบริษัทได้อีกทางหนึ่งด้วย โดยที่ทางธนาคารอาจจะตั้งหน่วยงานขึ้นมาเพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ขึ้นมา รวมทั้งการสร้าง Starup ในไทยต่อไป    

  

   ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน กล่าวว่า ปัจจุบันธนาคารมีสินเชื่อข้าราชการมูลค่า 629,000 ล้านบาทหนี้เสียหรือ NPL โดยรวมอยู่ที่ 3-4%  โดยเป็นกลุ่มข้าราชการครูหรือทางการศึกษา 41% หนี้เสียอยู่ที่ 2%

   ข้าราชการภาครัฐ พลเรือนและรัฐวิสาหกิจอีก 51% ส่วนตำรวจและทหารอีกกลุ่มละ 4% เท่ากัน แต่ทั้งนี้หากรวมกับธนาคารอื่น ๆ ด้วยแล้วข้าราชการไทยจะมีหนี้รวมกันมากกว่า 1 ล้านล้านบาท 

   ส่วนการแก้ปัญหาลูกหนี้บัตรเครดิตนั้นมี 2 แนวทางคือเมื่อเป็นหนี้เสียจะมีทางธปท.และ SAM หรือ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท(บสส.) แก้หนี้ให้ผ่านทาง "คลินิกแก้หนี้" เจรจาในการชำระหนี้ตามศักยภาพทางการเงิน

   ส่วนธนาคารออมสินจะพิจารณาแก้หนี้ให้กับลูกค้าที่มีประวัติดี ข้าราชการ มีเงินเดือนประจำ ที่มีภาระโดยธนาคารจะแบ่งเบาให้ผ่อนชำระเพียง 2.5% รวมเงินต้นและดอกเบี้ยของรายได้และหมดหนี้ได้ภายใน 4 ปี

   โดยภายในวันที่ 1 มีนาคม 2563 เปิดโอกาสให้ลูกค้าธนาคารสามารถเข้ามาใช้โครงการนี้ได้ โดยที่มีหนี้รายละ 100,000 บาท จำนวน 100,000 รายก็จะเป็นวงเงินที่ 10,000 ล้านบาท โดยจะได้รับการผ่อนปรนลดดอกเบี้ยลงมาเกือบครึ่งหนึ่งจาก 19% เหลือ 8.5% 

   

   

06 กุมภาพันธ์ 2563

ผู้ชม 1652 ครั้ง

Engine by shopup.com