RSพลิกโฉม!ธุรกิจCommerceนำทัพ!  

   RSพลิกโฉม!ธุรกิจCommerceนำทัพ!

   ชูธง!ปี 65 สัดส่วนรายได้ทะยาน! 80%

   "สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อาร์เอส(RS) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้ปรับตัวเข้าสู่ธุรกิจ Commerce เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาด้วยแบรนด์ RS Mall แพลตฟอร์มที่จำหน่ายสินค้าและบริการในหลากหลายกลุ่ม

   ประกอบกับล่าสุดบริษัทได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่เมื่อปลายปี 2562 ที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อรองรับกลยุทธ์และแผนการตลาดในปี 2563 นี้ที่จะเป็นก้าวสำคัญในรอบ 37 ปีของอาร์เอสเพื่อก้าวสู่ธุรกิจที่เป็น New S Curve

   เพื่อผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดดตามเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2565 ที่จะมีรายได้จำนวน 10,000 ล้านบาท โดยที่สัดส่วนรายได้ของธุรกิจ Commerce จาก RS Mall จะอยู่ที่ 80% และรายได้จากธุรกิจสื่อและบันเทิงอยู่ที่ 20% 

   จากเป้าหมายในปี 2563 ที่อาร์เอสได้ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้จำนวน 5,250 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจ Commerce จำนวน 3,200 ล้านบาทเติบโต 30% หรือคิดสัดส่วน 60% จากรายได้รวม

   ส่วนรายได้สื่อและบันเทิงตั้งไว้ที่จำนวน 2,050 ล้านบาท หรือสัดส่วน 40% โดยที่การลงทุนในสื่อทีวีดิจิทัลช่อง 8 ก็ยังคงเป้าหมายการลงทุนเท่าเดิมที่ปีละ 600 ล้านบาท

   สำหรับการสร้างการเติบโตของรายได้ตามแผนงานในปี 2565 นั้นทางอาร์เอสจะผลักดัน RS Mall ไปสู่ Entertainmerce ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ต่อยอดจาก Biz Model ด้วยการเชื่อมโยงผสานจุดแข็งของ RS ให้เต็มที่แบบบูรณาการ เป็นพลังขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ Commerce นับจากปี 2563 เป็นต้นไป

   โดยมีช่องทางการขายผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ 1.สื่อทีวี ช่อง 8, ช่องไทยรัฐทีวี, ช่องเวิร์คพอยท์ทีวี และช่องอมรินทร์ทีวี, 2. Line Official account @rsmall 3. E commerce website ทั้งแพลตฟอร์มบนเว็บไซต์ (www.rsmall.co.th) และแอปพลิเคชั่นบนมือถือ (RS Mall) รวมถึงโซเชียลมีเดียทุกประเภท

   นอกจากนั้นก็จะนำข้อมูลของฐานลูกค้าที่มีอยู่ทั้งหมดของอาร์เอสมาวิเคราะห์และใช้ประโยชน์ในการเข้าสู่ธุรกิจใหม่ รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับธุรกิจต่างๆ และการควบรวมกิจการหรือ M&A เพื่อสร้างโอกาสและ Eco System  ทางธุรกิจของอาร์เอสด้วย  

   "พรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ กลุ่มธุรกิจสินค้าและแพลตฟอร์ม บมจ.อาร์เอส(RS) กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเป้าหมายของธุรกิจ RS Mall ในปี 2563 จำนวน 3,200 ล้านบาทนั้นถือเป็นการเติบโตมากกว่า 50% จากปีที่ผ่านมา โดยจะมีฐานลูกค้าใหม่เติบโต 20% ส่งผลให้มีลูกค้าจำนวน 1.6 ล้านคน 

   ในขณะที่ราคาที่ซื้อสินค้าโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2,500 ล้านบาทหรือเติบโต 4%  แต่สิ่งสำคัญที่จะผลักดันให้ RS Mall มีรายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คือการเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำมากขึ้นจาก 1.8 ครั้งต่อปีมาเป็น 2.5 ครั้งต่อปี    

   ดร.ชาคริต พิชญางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลฟ์สตาร์ จำกัด  กล่าวเสริมว่า บริษัทได้วางแผนงานออกสินค้าใหม่ทางธุรกิจ RS Mall เดือนละ 30 ชิ้นเพื่อเจาะ Segment หรือกลุ่มเป้าหมายลูกค้าใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด

   รวมถึงกลยุทธ์สำคัญในปีนี้คือ การเข้าสู่ตลาดใหม่คือ ยาสีฟัน ในระดับพรีเมียม ที่ตลอด 5 ปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตปีละ 30% และในปี 2563 คาดว่าจะมีมูลค่า 12,000 ล้านบาท

   โดยบริษัทจะจับมือกับพันธมิตรจากประเทศสหรัฐอเมริกาให้ผลิตยาสีฟันมาวางจำหน่ายผ่านช่องทางธุรกิจของ RS Mall หลังจากที่ได้ศึกษาธุรกิจใหม่นี้มากว่า 2 ปีแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถผลิตออกมาทำตลาดได้ในไตรมาส 3 ของปีนี้ซึ่งไม่ได้รวมอยู่ในเป้าหมายรายได้ปีนี้แต่อย่างใด