สถิติ

66715469

"แอมเวย์" ปฏิวัติ!ครั้งใหญ่สู้ศึก!ดิจิทัลในรอบ 60 ปี  

หมวดหมู่: ขายตรง

   "แอมเวย์" ปฏิวัติ!ครั้งใหญ่สู้ศึก!ดิจิทัลในรอบ 60 ปี

   ทุ่มทุน!ปรับโครงสร้างผลตอบแทนปั้น!นักธุรกิจออนไลน์

                   

   นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า  ในปี 2562 แอมเวย์ได้มีการปรับตัวครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์การดำเนินธุรกิจตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมาเพื่อปรับตัวเข้าสู่การแข่งขันในยุคดิจิทัลและการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซ ซึ่งธุรกิจขายตรงก็ต้องปรับตัวเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเช่นกัน โดยได้เตรียมงบประมาณการลงทุนเพื่อดิสทรับตนเองในปีนี้รวม 1,800 ล้านบาท

   ซึ่งประกอบไปด้วยการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์แอมเวย์ทั่วโลก ด้วยการเปิดตัวโปรแกรม คอร์พลัส” (CORE PLUS+) ที่ไทยเป็นประเทศแรกก่อนที่จะนำไปเปิดตัวที่อินเดียและไต้หวันต่อไป ด้วยงบประมาณการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทเพื่อปรับโตรงสร้างผลตอบแทนในการสร้างการเติบโตให้กับนักธุรกิจแอมเวย์ยุคใหม่

   โดยโปรแกรม คอร์พลัส” (CORE PLUS+) เป็นการปรับโครงสร้างรายได้เพิ่มเงินรางวัลพิเศษนอกเหนือจากแผนรายได้หลักให้กับนักธุรกิจแอมเวย์ทุกระดับ ด้วย 3 จุดเด่น ได้แก่

   1) ได้ง่ายช่วยให้นักธุรกิจรายใหม่สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่ายและเร็วขึ้น  2) ได้เพิ่มช่วยให้นักธุรกิจในช่วงสร้างธุรกิจได้รับเพิ่มทั้งเงินรางวัลและลำดับขั้นความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้น 

   3) เติบโตยั่งยืนช่วยให้นักธุรกิจระดับผู้นำสามารถทำรายได้ได้อย่างต่อเนื่อง มีองค์กรธุรกิจที่มั่นคง ตลอดจนสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืน รองรับด้วยแผนพัฒนาทักษะความรู้ทางธุรกิจและแผนการตลาดต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยแอมเวย์ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกที่เริ่มใช้โปรแกรมคอร์พลัส ในวันที่ 1 กันยายน 2562 นี้ 

        

   ทั้งนี้เพื่อจูงใจนักธุรกิจรุ่นใหม่หรือมิลเลนเนียลให้เข้าสู่ธุรกิจ เพราะผลจากการสำรวจทั่วโลกพบว่าคนรุ่นใหม่กว่า 77% เลือกที่จะทำธุรกิจด้วยตนเองโดยไม่เป็นลูกจ้างเหมือนเดิมอีกต่อไป โดยเฉพาะการเข้าไปทำธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น

   ดังนั้นโครงสร้างผลตอบแทนและรายได้ดังกล่าวจะทำให้นักธุรกิจกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้เลือกที่จะเข้ามาร่วมงานกับแอมเวย์มากขึ้นเพราะสามารถได้ผลตอบแทนที่เพียงพอในระยะเวลาที่รวดเร็วขึ้นพร้อมความก้าวหน้าในอาชีพ เมื่อเทียบกับในอดีตการสร้างรายได้ที่เพียงพอกับชีวิตประจำวันของนักธุรกิจนั้นต้องใช้ระยะเวลานาน 

   ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีนักธุรกิจจำนวน 330,000 ราย ซึ่ง 1 ใน 3 เป็นนักธุรกิจกลุ่มมิลเลนเนียล ดังนั้นโปรแกรมดังกล่าวคาดว่าจะจูงใจให้แอมเวย์มีนักธุรกิจรุ่นใหม่กลุ่มมิลเลนเนียลเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 30-40% ในอีก 5 ปีข้างหน้า

   นอกจากนั้นแอมเวย์ยังได้เตรียมงบประมาณอีก 700 ล้านบาทในการทำตลาดและฝ่ายขาย ส่วนอีก 100 ล้านบาทเป็นการลงทุนเพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์เพื่อให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งการปรับโครงสร้างองค์กรและการลงทุนที่แสดงให้เห็นว่าแอมเวย์ให้ความสำคัญกับการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลคือการตั้งแผนกดิจิทัลขึ้นมา

   โดยมี "ณิชา ตรงต่อศักดิ์" รับผิดชอบในตำแหน่ง รองผู้อำนวยการ แผนกดิจิทัล รวมถึงทีมผู้บริหารอย่าง "วิเชียร  รัตนรังษีโรจน์" รับผิดชอบในตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจสัมพันธ์    

   นอกจากนี้เพื่อรองรับการเติบโตเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างมั่นคงในอนาคต แอมเวย์ยังทุ่มงบลงทุนด้านการพัฒนาเครื่องมือดิจิทัลให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับนักธุรกิจแอมเวย์และผู้บริโภค ด้วยอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มรูปแบบ แอพพลิเคชั่นหลากหลายที่สนับสนุนการทำธุรกิจให้ง่ายขึ้น 

   และนักธุรกิจแอมเวย์สามารถสร้างการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย (Social Selling) ด้วยการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ต่างๆ เข้ากับประสบการณ์ด้านดิจิทัล เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เฉพาะบุคคลได้อย่างตรงจุด

  

   "จากการลงทุนครั้งใหญ่และปรับตัวเข้าสู่ธุรกิจยุคดิจิทัลครั้งนี้ ถือเป็นการปฏิวัติครั้งสำคัญของแอมเวย์ หลังจาก "ตกหลุมความสำเร็จ" มาเป็นเวลานาน แม้ว่าจะสามารถเติบโตได้แต่อาจจะเป็นไปในลักษณะถดถอยในโลกการแข่งขันยุคออนไลน์นี้ 

   ดังนั้นจึงมั่นใจว่าการปรับตัวครั้งนี้จะครองความเป็นผู้นำรับโลกอนาคตในยุคดิจิทัลได้ เพราะแอมเวย์มีจุดเด่นที่เป็นธุรกิจ Hi-tech และ Hi-touch ด้วยความทันสมัยของเครื่องมือดิจิทัลกับความเป็นมืออาชีพของนักธุรกิจแอมเวย์

   จึงทำให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการได้อย่างครบถ้วนรอบด้าน โดยแอมเวย์ประเทศไทยเชื่อมั่นว่าภายในปี 2568 จะสามารถสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยยอดขาย 30,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน จากการเติบโตได้ปีละ 7-10% 

   โดยเฉพาะสัดส่วนยอดขายจากช่องทางออนไลน์ที่มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันที่แอมเวย์มียอดขายจากช่องทางนี้สัดส่วน 5% เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ที่สัดส่วน 2%

   ดังนั้นหลังการลงทุนและปรับตัวครั้งใหญ่นี้จะส่งผลให้แอมเวย์มีสัดส่วนรายได้จากช่องทางดิจิทัลเพิ่มเป็น 40-50% ของยอดขายรวมภายใน 5 ปีข้างหน้า " นายกิจธวัช กล่าวย้ำและเพิ่มเติมว่า 

   สำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาแอมเวย์มียอดขายเติบโต 7% และสิ้นปีนี้ตั้งเป้าโต 10% ซึ่งสูงกว่าตลาดขายตรงรวมที่ปีนี้คาดว่าจะทรงตัวหรือเติบโตเพียง 1-2%  เมื่อเทียบกับปี 2561 ที่ผ่านมาที่ธุรกิจขายตรงติดลบ 1% หรือมูลค่ารวมกว่า 70,000 ล้านบาท โดยการเติบโตของธุรกิจส่วนใหญ่ในปีนี้จะมาจากบริษัทขนาดใหญ่ที่มีฐานลูกค้าจำนวนมากและแบรนด์ที่ได้รับความเชื่อถือ   

   ในขณะที่บริษัทขนาดกลางและเล็กที่ไม่สามารถสร้างฐานลูกค้าได้มากพอ รวมทั้งไม่สามารถปรับตัวเพื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้นั้นก็จะมีความเสี่ยงและความอยู่รอดในธุรกิจนี้ต่อไปในอนาคต 

 

 

 

08 สิงหาคม 2562

ผู้ชม 1672 ครั้ง

Engine by shopup.com