"ดร.รักษ์" โชว์วิสัยทัศน์ BAM ชูกลยุทธ์ 3P สู้!เศรษฐกิจผันผวน
"ดร.รักษ์" โชว์วิสัยทัศน์ BAM ชูกลยุทธ์ 3P สู้!เศรษฐกิจผันผวน
"ดร.รักษ์" โชว์วิสัยทัศน์ BAM ชูกลยุทธ์ 3P สู้!เศรษฐกิจผันผวน
MOUยักษ์อสังหาฯช่วยขาย-แบงก์ปล่อยสินเชื่อ ดันรายได้15,000ลบ.
"ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BAM โชว์วิสัยทัศน์พร้อมสร้าง BAM เป็น Business Recycling Machine ในการช่วยพลิกฟื้นลูกหนี้ให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน
เร่งสร้างการเติบโตองค์กรอย่างแข็งแกร่งด้วยกลยุทธ์ 3P เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน สบช่อง!ผนึกความร่วมมือยักษ์อสังหาฯไตรมาส 2 นี้
คัดพอร์ตจาก ฺBAM ไปบริหารทั้งการลงทุนรีโนเวทและต่อยอดทำตลาดในการขายต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วในระดับราคาที่ 2-3 ล้านบาท เหตุเงินทุนในการรีโนเวทของ BAM จำกัดเพียงปีละ 200 ล้านบาทเท่านั้น
พร้อมกางแผนเตรียมจับมือสถาบันการเงินในไตรมาส 4 นี้เพื่ออำนวยความสะดวกในการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าอีกทางหนึ่ง ควบคู่แผนการจับมือหน่วยงานรัฐเพื่อให้ข้าราชการกว่าล้านคนทั่วประเทศเข้าถึงที่อยู่อาศัยและผ่อนชำระกับ BAM
คาดกลยุทธ์ดังกล่าวสามารถผลักดันให้บรรลุเป้าหมายรายได้ในปี 2568 ไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้เดิม 17,800 ล้านบาท หลังยอมรับได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของ "ทรัมป์"
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวว่า การเข้ารับตำแหน่ง CEO BAM ครั้งนี้ถือว่าเป็นความท้าทายการบริหารงานภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวและภาวะการแข่งขันสูง โดยมีเป้าหมายยกระดับให้ BAM เป็นมากกว่า AMC
รวมทั้งยังคงบทบาทในการเป็นแก้มลิงแห่งชาติที่เข้าไปจัดการปัญหามวลหนี้เสียไม่ให้ไหลเข้าท่วมสู่ระบบสถาบันการเงิน ด้วยการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพทั้ง NPL และ NPA อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความผันผวน
รวมทั้งยังสร้างโอกาสในการลงทุน โดยการนำทรัพย์สินเหล่านี้มาสร้างมูลค่าเพิ่มและผลตอบแทนที่คุ้มค่า ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของ BAM ในฐานะผู้นำธุรกิจ AMC ที่พร้อมเคียงข้างระบบเศรษฐกิจและสร้างการเติบโตให้กับสังคมไทยได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ภาพรวมหนี้ด้อยคุณภาพ NPL ในระบบสถาบันการเงิน (ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และสินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ) ณ สิ้นปี 2567 มีจำนวน 2,026,000 ล้านบาท และมีทรัพย์สินรอการขาย NPA (ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ) จำนวน 193,526 ล้านบาท
ขณะที่ BAM มี NPL ในความดูแล ณ สิ้นปี 2567 จำนวน 503,603 ล้านบาท หรือคิดเป็น 24.86% ของระบบสถาบันเงิน รวมทั้งมี NPA จำนวน 74,517 ล้านบาท หรือคิดเป็น 38.50% ของระบบสถาบันการเงิน
อย่างไรก็ตามจากมาตรการภาษีของ "ทรัมป์" ประเมินว่า จะส่งผลกระทบต่อเป้าหมายรายได้ของ BAM ที่ตั้งไว้ในปีนี้เช่นกัน จากที่ตั้งไว้จำนวน 17,800 ล้านบาทนั้น คาดว่าเป้าหมายที่จะบรรลุได้ไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน
โดยที่ BAM มีเป้าหมายในการเป็น Business Recycling Machine เพื่อช่วยพลิกฟื้นลูกหนี้ให้สามารถเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้ รวมถึงสร้างการเติบโตของ BAM ให้แข็งแกร่งด้วยแผนกลยุทธ์เชิงรุก “3P” ได้แก่ People, Partnerships, และ Platforms/Process เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน
สำหรับ P ตัวแรกคือ People เป็นการสร้างคุณค่าให้กับ 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย ผู้ถือหุ้น ด้วยการยกระดับองค์กรให้ได้รับการยอมรับในระดับชาติ โดยตอกย้ำบทบาทการเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ชั้นนำของประเทศ พร้อมทั้งสร้างความโปร่งใสและธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้ถือหุ้นระยะยาว
ส่วนที่สองคือลูกหนี้และลูกค้า BAM มุ่งมั่นให้โอกาสลูกหนี้ NPL ในการฟื้นฟูกิจการหรือสถานะทางการเงินของตน โดยปรับโครงสร้างหนี้และหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน ขณะที่ลูกค้า NPA จะได้รับการบริการที่รวดเร็วแบบมืออาชีพ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดในการซื้อทรัพย์ BAM
และส่วนที่สามคือพนักงานและการพัฒนาองค์กร โดย BAM เชื่อมั่นว่าพนักงานคือทรัพยากรที่สำคัญที่สุดขององค์กร จึงเร่งสร้างศักยภาพสำหรับอนาคตและการเติบโตของพนักงานที่เหมาะสมพร้อมๆ กับระบบสวัสดิการที่ตอบโจทย์ (Flexi Benefits) สำหรับคนรุ่นใหม่
ในส่วน Partnerships BAM จะให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการ MOU ความร่วมมือกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Developers) ภายในไตรมาส 2 นี้จำนวน 3 ราย เพื่อช่วยในการทำตลาดให้กับ BAM อีกทางหนึ่ง
โดยจะมีการคัดสรรพอร์ตของ BAM ให้นำไปปรับปรุงหรือรีโนเวทและเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินรอการขาย และนำไปทำการตลาดเพื่อขายให้ก้บลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วต่อไปที่ระดับราคา 2-3 ล้านบาท ทั้งนี้เพราะในแต่ละปีทาง BAM มีงบประมาณในการรีโนเวทอสังหาฯที่มีอยู่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในการขายเพียงปีละ 200 ล้านบาทเท่านั้น
รวมทั้งยังเตรียมแผนงานสนับสนุนลูกหนี้ในภาคธุรกิจเชิงพาณิชย์ที่มีศักยภาพ โดยให้ความช่วยเหลือผ่านความร่วมมือจากพันธมิตรทางการเงินในการจัดหาสินเชื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ลูกหนี้กลุ่มนี้ เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืนภายในไตรมาส 4 นี้
และอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ 3P คือการพัฒนา Platforms/Process โดย BAM ได้เดินหน้าปรับเปลี่ยนองค์กรเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ (Digital Transformation) มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและยกระดับการให้บริการลูกค้า
โดยได้ลงทุนในการพัฒนาระบบ AI เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจและปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นในการบริหารจัดการข้อมูลลูกหนี้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถติดตามสถานะของลูกหนี้แต่ละรายได้อย่างใกล้ชิด วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
และนำเสนอทางเลือกหรือวิธีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสมกับความสามารถในการชำระของลูกหนี้แต่ละรายได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น BAM ยังได้เสริมประสิทธิภาพการทำงานในองค์กรเพื่อลดขั้นตอนด้วยกระบวนการ Streamline Process อีกด้วย
ในขณะเดียวกัน BAM พร้อมเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) เพื่อช่วยแก้ไขหนี้อย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการสร้างวินัยทางการเงิน พร้อมทั้ง BAM ยังบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ให้มีประสิทธิภาพ
เพื่อให้การลงทุนใน NPA ของ BAM เป็น Investment of Choice เป็นโอกาสทองของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มือสอง ถึงแม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีปัจจัยที่ท้าทายด้วยเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า พร้อมกับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง
แต่ BAM ก็ยังสามารถนำทรัพย์สินเหล่านี้มาสร้างมูลค่าเพิ่ม นำเสนอลูกค้าตามกลุ่มเป้าหมาย (Target Segment) ด้วยช่องทางและแพลตฟอร์มต่างๆ ที่หลากหลาย โดย BAM พร้อมมอบทางเลือกเพื่อรองรับความต้องการของทุกกลุ่มลูกค้าและทุกวัตถุประสงค์การใช้งานทำให้ทรัพย์ของ BAM เป็น Property For All
พร้อมกันนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วย BAM Digital พัฒนาโครงสร้าง IT ด้วยระบบ AI และพัฒนา BAM Choice Application ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกหนี้ซึ่งสามารถชำระเงิน ตรวจสอบภาระหนี้คงเหลือ การติดต่อกับเจ้าหน้าที่ การขอเอกสารสำคัญ
ในขณะที่เมนู BAM Select จะช่วยลูกค้าค้นหาทรัพย์ได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นกว่า 300 แห่ง ระดับราคาที่ 3 ล้านบาทขึ้นไป โดยค้นหา และเปรียบเทียบตามช่วงราคา/พื้นที่
ซึ่งผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ด้วยตนเองผ่านสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวกสบาย ถือได้ว่าเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของลูกหนี้และลูกค้าทุกกลุ่มผ่านช่องทางดิจิทัล
รวมถึง BAM Auto ซึ่งเป็นระบบ Automation ที่จะมาช่วยลดการทำงานที่ซ้ำซ้อนและลดการทำงานแบบ Manual เพื่อนำไปสู่การใช้ AI ที่ช่วยจำลองการออกแบบทรัพย์ตวามความต้องการของลูกค้า
เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายทรัพย์ รวมทั้งยกระดับประสบการณ์ค้นหาทรัพย์ด้วย AI อัจฉริยะที่จะช่วยแนะนำทรัพย์ให้ตรงใจจากพฤติกรรมการเข้าชมของลูกค้าอีกด้วย
09 พฤษภาคม 2568
ผู้ชม 124 ครั้ง