สถิติ

73628985

สำนักงาน คปภ. ลงพื้นที่ช่วยเหลืออุบัติเหตุมอเตอร์เวย์    

หมวดหมู่: ประกันภัย

   สำนักงาน คปภ. ลงพื้นที่ช่วยเหลืออุบัติเหตุมอเตอร์เวย์

   เร่งประสานงาน"อินทรประกันภัย-MSIG-LMG"เยียวยา 

   สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค สำนักงาน คปภ. ภาค 6 (ชลบุรี) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดสมุทรปราการ ได้ลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจสอบอุบัติเหตุรถยนต์บรรทุกหัวลากทะเบียน 73-1430 ชลบุรี หางพ่วงทะเบียน 71-3810 ชลบุรี

   ชนท้ายรถยนต์ นั่งส่วนบุคคลคันหมายเลขทะเบียน ขค 6161 อุดรธานี บริเวณจุดจอดรถฉุกเฉิน บนถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 มุ่งหน้าจังหวัดชลบุรี ตำบลศีรษะจรเข้น้อย อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ

   เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บกว่า 3 ราย โดยได้ทำการตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัย และติดตามรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูล

   กรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้ทุกบริษัทประกันภัยตรวจสอบการทำประกันภัยของรถยนต์ทุกคัน ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทุกราย

   จากการลงพื้นที่ของสำนักงาน คปภ. จังหวัดสมุทรปราการ เบื้องต้นพบว่า รถยนต์นั่งคันหมายเลขทะเบียน ขค 6161 อุดรธานี คันที่ถูกชน ทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับไว้กับ บริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) วงเงินความคุ้มครองสูงสุด 10,000,000 บาทต่อครั้ง

   รถยนต์หัวลากคันหมายเลขทะเบียน 73-1430 ชลบุรี และรถยนต์หางพ่วงหมายเลขทะเบียน 71-3810 ชลบุรี มีประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับไว้กับบริษัท เอ็มเอสไอจี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รวม 2 กรมธรรม์ วงเงินความคุ้มครองสูงสุดรวม 2 กรมธรรม์ 20 ล้านบาท

   กรณีรถยนต์หัวลากและรถยนต์หางพ่วง เป็นฝ่ายผิด ผู้เสียหายจะได้รับ ค่าสินไหมทดแทนกรณีผู้บาดเจ็บจะมีความคุ้มครองค่ารักษาสูงสุดตามจริง ไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน รวม 2 กรมธรรม์ 160,000 บาท สูญเสียอวัยวะ 200,000 - 500,000 บาทต่อคน

   รวม 2 กรมธรรม์ 400,000–1,000,000 บาท ทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อคน รวม 2 กรมธรรม์ 600,000 บาท ค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน รวม 2 กรมธรรม์ 200 บาท ต่อวัน รวมกันไม่เกิน 40 วัน ต่อคน โดยมีวงเงินสูงสุด 10 ล้านบาทต่อกรมธรรม์

   หากรถยนต์นั่งเป็นฝ่ายผิด ผู้ขับขี่จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่ารักษาพยาบาลตามจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท และกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่าปลงศพจำนวน 35,000 บาท

   ส่วนผู้โดยสารจะได้รับ ความคุ้มครองค่ารักษาสูงสุดตามจริง ไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน กรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000-500,000 บาทต่อคน กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อคน และค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน 200 บาท ต่อวัน

   นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่ารถยนต์หัวลากคันหมายเลขทะเบียน 73-1430 ชลบุรี ยังทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภท 3 ไว้กับ บริษัท แอลเอ็มจีประกันภัย จำกัด (มหาชน)

   ระยะเวลาคุ้มครองวันที่ 5 มีนาคม 2568 ถึงวันที่ 5 มีนาคม 2569 วงเงินความคุ้มครองชีวิต ร่างกาย อนามัยบุคคลภายนอก 500,000 บาทต่อราย คุ้มครองทรัพย์สินบุคคลภายนอก 1,000,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งจะต้องรอผลการสอบสวนของพนักงานสอบสวนว่าเป็นฝ่ายประมาทหรือไม่

   ทั้งนี้ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของพนักงานสอบสวน จึงยังไม่สามารถชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากเหตุละเมิดดังกล่าวได้จนกว่าผลคดีจะเป็นที่ยุติ

   แต่อย่างไรก็ตามการประกันภัยภาคบังคับมีเจตนารมณ์ในการรักษาพยาบาลหรือการเยียวยาอย่างรวดเร็วตามหลักสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าทดแทนและค่าปลงศพ

   สำหรับกรณีรถยนต์ชนกันโดยยังไม่มีฝ่ายใดยอมรับผิด และปรากฏว่ารถยนต์ทั้งสองฝ่ายมีการทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับที่กำหนดให้บริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยรถยนต์คันที่มีผู้โดยสารนั่งมา

   แล้วบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจะสำรองจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้บาดเจ็บหรือทายาทผู้เสียชีวิตไปก่อนตามความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยของรถยนต์คันที่โดยสารมา

   ดังนั้นเบื้องต้นทายาทโดยธรรมของผู้เสียชีวิต 8 ราย จะได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับด้วยหลักสำรองจ่าย โดยผู้ขับขี่รถยนต์หมายเลขทะเบียน ขค 6161 อุดรธานี

   มีสิทธิได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่าปลงศพ จำนวน 35,000 บาท จากประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ และผู้โดยสารที่เสียชีวิตมีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนจากประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ จำนวน 500,000 บาทต่อราย

   ส่วนผู้โดยสารที่บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล สำนักงาน คปภ. ได้ประสานกับ บริษัทประกันภัยเพื่อรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลโดยตรงแล้ว

   สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ และขอร่วม ไว้อาลัยอย่างสุดซึ้ง พร้อมยืนยันให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยอย่างเต็มที่

   โดยขอประชาสัมพันธ์ถึง เจ้าของรถยนต์ทุกคนทำการตรวจสอบว่ารถยนต์ของตนว่ามีประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถฯ) แล้วหรือยัง ทั้งนี้หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้สิทธิด้านประกันภัย สามารถติดต่อสายด่วน คปภ. โทร. 1186

26 เมษายน 2568

ผู้ชม 156 ครั้ง

Engine by shopup.com