SCGP ชู!โมเดล Packaging Solutions
SCGP ชู!โมเดล Packaging Solutions
SCGP ชู!โมเดล Packaging Solutions
ลงทุน7,600ลบ.ขยายการผลิตรับโตปีละ6.1%
บมจ. เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (“SCGP”) ชูความหลากหลายของสินค้าและบริการด้านแพคเกจจิ้ง พร้อมสร้างความแตกต่างด้วยโมเดล Packaging Solutions ตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภค
วางเป้าหมายรักษาตำแหน่งผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน พร้อมเดินหน้าขยายกำลังการผลิตในอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม
คาดภาพรวมตลาดบรรจุภัณฑ์ทุกประเภทในภูมิภาคนี้ช่วง 6 ปี (ปี 2561-2567) ที่อัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีละร้อยละ 6.1 สอดคล้องกับเมกะเทรนด์การขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) และกลุ่มประชากรรายได้ระดับปานกลางที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า SCGP ได้กำหนดวิสัยทัศน์ และเป้าหมายทางธุรกิจที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน โดยมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าและผู้บริโภค
ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์สำหรับบรรจุสินค้า บรรจุภัณฑ์สำหรับแสดงสินค้า บรรจุภัณฑ์สำหรับการขนส่ง ตลอดจนการบรรจุภัณฑ์ในการเป็นเครื่องมือส่งเสริมทางการตลาด โดยมีฐานการผลิตและตลาดหลักในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศมาเลเซีย
โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบรรษัทข้ามชาติ และบริษัทชั้นนำในระดับประเทศและภูมิภาคที่มีการประกอบธุรกิจที่มั่นคงในอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย ซึ่งอยู่ในธุรกิจที่มีการเติบโตสูง อาทิ สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ เป็นต้น
ทั้งนี้ภาพรวมธุรกิจบรรจุภัณฑ์ทุกประเภทในภูมิภาคอาเซียนมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่ารวมประมาณกว่า 51,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2561 ซึ่งคาดว่าในช่วง 6 ปี (ปี 2561-2567) จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีละร้อยละ 6.1 หรือมีมูลค่าตลาดบรรจุภัณฑ์รวมอยู่ที่ 72,700 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2567
โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของประชากรวัยหนุ่ม-สาวที่มีรายได้ระดับปานกลางในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศฟิลิปปินส์
ซึ่งส่งผลดีต่ออัตราการบริโภคต่อหัวของประชากรในภูมิภาคนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดดพร้อมทั้งได้รับผลดีจากภาพรวมธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กำลังเติบโตอย่างมาก และถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่สำคัญ (เมกะเทรนด์) ในภูมิภาคอาเซียน
SCGP จึงมุ่งขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดบรรจุภัณฑ์ครบวงจรในภูมิภาค โดยการนำรูปแบบที่ประสบความสำเร็จแล้วของบริษัทไปใช้ในการขยายธุรกิจในต่างประเทศ
โดยใช้กระบวนการบูรณาการทั้งในแนวตั้งและแนวนอนเพื่อสร้างความใกล้ชิดระหว่างบริษัทกับลูกค้า และมีส่วนร่วมกับลูกค้าในด้านต่าง ๆ ตลอดถึงการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเร่งการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วย
โดย SCGP มีโครงการขยายกำลังการผลิตมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 7,600 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จในปี 2563 และยังมีการพิจารณาการควบรวมอื่นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจและรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดในภูมิภาคนี้
นายวิชาญ กล่าวต่อไปว่า SCGP ได้นำโมเดล Packaging Solutions มาใช้เพื่อสร้างความแตกต่างในการดำเนินธุรกิจ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะด้าน และสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันในลูกค้าแต่ละราย
นอกจากนี้ SCGP ยังได้ส่งเสริมการพัฒนาสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ผ่านนักวิจัยและพัฒนาจำนวนมากกว่า 90 คน และนักออกแบบมืออาชีพจำนวน 40 คน ที่พร้อมในการสร้างสรรค์และให้บริการแก่ลูกค้า โดยปัจจุบันยังมีผลิตภัณฑ์ได้รับการจดทะเบียนสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร รวมถึงอยู่ระหว่างยื่นขอรับความคุ้มครองในไทยและต่างประเทศอีกกว่า 60 รายการ
14 กุมภาพันธ์ 2563
ผู้ชม 576 ครั้ง